เมนู

สัมปทา 4 อย่าง


จริงอยู่ ชื่อว่าสัมปทามี 4 อย่างคือ วัตถุสัมปทา ปัจจัยสัมปทา
เจตนาสัมปทา คุณาติเรกสัมปทา. ในสัมปทา 4 อย่างนั้น พระอรหันต์
หรือพระอนาคามี ควรแก่นิโรธสมาบัติ ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลล ชื่อวัตถุ
สัมปทา. การบังเกิดขึ้นแห่งปัจจัยทั้งหลาย โดยธรรมสม่ำเสมอ ชื่อปัจจัย-
สัมปทา, ความที่เจตนาใน 3 กาล คือในกาลก่อนแต่ให้, ในกาลกำลังให้,
ในกาลภายหลัง สัมปยุตด้วยญาณ อันกำกับโดยโสมนัส ชื่อเจตนสัมปทา.
ส่วนความที่ทักขิไณยบุคคลออกจากสมาบัติ ชื่อว่าคุณาติเรกสัมปทา.
ก็สัมปทาทั้ง 4 อย่างคือ พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ขีณาสพเป็นทักขิไณย-
บุคคล. ปัจจัยที่เกิดแล้ว โดยธรรม โดยความที่ทำการจ้างได้เเล้ว. เจตนา
บริสุทธิ์ใน 3 กาล พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ออกจากสมาบัติเป็นผู้ยิ่ง
โดยคุณ สำเร็จแล้วแก่นายภัตตภติกะนี้. ด้วยอานุภาพแห่งสัมปทา 4 นี้
นายภัตตภติกะ จึงบรรลุมหาสมบัติในทันตาเห็นทีเดียว. เพราะฉะนั้น
นายภัตตภติกะนั้น จึงได้สมบัติจากสำนักของเศรษฐี.

นายภัตตภติกะได้เป็นเศรษฐี


ก็ในกาลต่อมา แม้พระราชา ทรงสดับกรรมที่นายภัตตภติกะนี้ทำ
แล้ว จึงได้รับสั่งให้เรียกเข้ามาเฝ้า แล้วพระราชทานทรัพย์ให้พันหนึ่ง
ทรงรับส่วนบุญ ทรงพอพระทัย พระราชทานโภคะเป็นอันมาก แล้วก็ได้
พระราชทานตำแหน่งเศรษฐีให้. เขาได้มีชื่อว่า " ภัตตภติกเศรษฐี "
ภัตตภติกเศรษฐีนั้น เป็นสหายกับคันธเศรษฐี กินดื่มร่วมกัน ดำรงอยู่
ตลอดอายุแล้ว จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้บังเกิดในเทวโลก เสวยสมบัติ