เมนู

จ่ายทรัพย์ 3 พันแก่ผู้จัดการภัตนั้น คือสองพัน เพื่อประโยชน์แก่อาหาร
เย็นและอาหารเช้าของตน, พันหนึ่ง เพื่อประโยชน์แก่อาหารเช้าของนาย
ภัตตภติกะนั้น แล้วสั่งคนใช้ว่า " วันนี้ พวกเจ้าจงทำการบริหารที่พึงทำ
แก่เรา แก่นายภัตตภติกะนั้นเถิด. " ก็แลครั้นสั่งแล้ว จึงสั่งแม้กะชนที่
เหลือ เว้นภรรยาเป็นที่รักนามว่าจินดามณีคนเดียว ว่า " วันนี้ พวกเจ้า
จงแวดล้อมนายภัตตภติกะนั้นเถิด . " ดังนี้แล้ว ก็มอบสมบัติทั้งหมดให้แก่
นายภัตตภติกะนั้น.

นายภัตติภติกะเตรียมบริโภคภัต


นายภัตตภติกะ นั่งบนแผ่นกระดานนั้นในซุ้มนั้นนั่นแล อาบ
น้ำด้วยสำหรับอาบของเศรษฐี นุ่งผ้าสาฎกสำหรับนุ่งของเศรษฐีนั่น
แหละ แล้วนั่งบนบัลลังก์ของเศรษฐีนั้นเหมือนกัน. แม้ท่านเศรษฐีก็ใช้
ให้คนเอากลองเที่ยวตีประกาศไปในพระนครว่า " นายภัตตภติกะทำการ
รับจ้างตลอด 3 ปีในเรือนของคันธเศรษฐี ได้ถาดภัตถาดหนึ่ง, ขอชน
ทั้งหลายจงดูสมบัติแห่งการบริโภคของเขา. มหาชนได้ขึ้นเตียงซ้อนเตียง
ดูอยู่. ที่ๆชายชาวบ้านนอกดูแล้ว ๆก็ได้ถึงอาการหวั่นไหว. พวก
นักฟ้อนได้ยืนล้อมนายภัตตภติกะนั้น. พวกคนใช้ยกถาดภัตถาดหนึ่ง ตั้ง
ไว้ข้างหน้าของนายภัตตภติกะนั้นแล้ว.
ครั้งนั้น ในเวลาที่นายภัตตภติกะนั้นล้างมือ พระปัจเจกพุทธเจ้า
องค์หนึ่งที่ภูเขาคันธมาทน์ ออกจากสมาบัติในวันที่ 7 แล้ว ใคร่ครวญ
อยู่ว่า " วันนี้ เราจักไปเพื่อประโยชน์แก่ภิกขาจารในที่ไหนหนอแล ? ก็ได้
เห็นนายภัตตภติกะแล้ว. ครั้งนั้น ท่านพิจารณาต่อไปอีกว่า " นาย
ภัตตภติกะนี้ ทำการรับจ้างถึง 3 ปี จึงได้ถาดภัต. ศรัทธาของเขามี

หรือไม่มีหนอ ? ใคร่ครวญไปก็ทราบได้ว่า " ศรัทธาของเขามีอยู่ " คิดไป
อีกว่า " คนบางพวก ถึงมีศรัทธา ก็ไม่อาจเพื่อทำการสงเคราะห์ได้.
นายภัตตภติกะนี้ จักอาจหรือไม่หนอ เพื่อจะทำการสงเคราะห์เรา ? "
ก็รู้ว่า " นายภัตตภติกะ จักอาจทีเดียว ทั้งจักได้มหาสมบัติเพราะอาศัย
เหตุคือการสงเคราะห์แก่เราด้วย " ดังนี้แล้ว จึงห่มจีวรถือบาตร เหาะขึ้น
สู่เวหาสไปโดยระหว่างบริษัท แสดงตนยืนอยู่ข้างหน้าแห่งนายภัตตภติกะ
นั้นนั่นแล.

นายภัตตภติกะถวายภัตแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า


นายภัตตภติกะนั้น เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว คิดว่า " เราได้ทำ
การรับจ้างในเรือนคนอื่นถึง 3 ปี ก็เพื่อประโยชน์แก่ถาดภัตถาดเดียว
เพราะความที่เราไม่ได้ให้ทานในกาลก่อน. บัดนี้ ภัตนี้ของเราพึงรักษา
เราก็เพียงวันหนึ่งคืนหนึ่ง, ก็ถ้าเราจักถวายภัตนั้นแก่พระผู้เป็นเจ้า ภัต
จักรักษาเราไว้มิใช่พันโกฏิกัลป์เดียว เราจักถวายภัตนั้นแก่พระผู้เป็น
เจ้าละ." นายภัตตภติกะนั้น ทำการรับจ้างตลอด 3 ปี ได้ถาดภัตแล้ว
ไม่ทันวางภัตแม้ก้อนเดียวในปาก บรรเทาความอยากได้ ยกถาดภัตขึ้น
เองทีเดียว ไปสู่สำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้า ให้ถาดในมือของคนอื่น
แล้ว ไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้ว เอามือซ้ายจับถาดภัต เอามือขวา
เกลี่ยภัตลงในบาตรของพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น. พระปัจเจกพุทธเจ้าได้
เอามือปิดบาตรเสีย ในเวลาที่ภัตยังเหลืออยู่กึ่งหนึ่ง.
ครั้งนั้น นายภัตตภติกะนั้นเรียนท่านว่า " ท่านขอรับ ภัตส่วน
เดียวเท่านั้น ผมไม่อาจเพื่อจะเเบ่งเป็น 2 ส่วนได้, ท่านอย่าสงเคราะห์