เมนู

ทั้งหลาย. จงถวายทาน, จงฟังธรรม, ชื่อว่า รัตนะอย่างอื่นเช่นกับ
พุทธรัตนะเป็นต้นไม่มี. พวกท่านจงทำสักการะรัตนะทั้ง 3 เถิด. "

ผลของการชักชวนมหาชนบำเพ็ญการกุศล


พระราชาผู้ใหญ่ทรงพระนามว่าพันธุมะ เป็นพระพุทธบิดา ทรง
สดับเสียงของข้าพระองค์นั้น รับสั่งให้เรียกข้าพระองค์มาเฝ้าแล้ว ตรัสถาม
ว่า ' พ่อ เจ้าเที่ยวทำอะไร ? ' เมื่อข้าพระองค์ทูลว่า ' ข้าแต่สมมติเทพ
ข้าพระองค์เที่ยวประกาศคุณรัตนะทั้ง 3 ชักชวนมหาชนในการบุญทั้ง-
หลาย.' จึงตรัสถามว่า ' เจ้านั่งบนอะไรเที่ยวไป ? ' เมื่อข้าพระองค์
ทูลว่า ' ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์เดินไป ' จึงตรัสว่า ' พ่อ เจ้าไม่
ควรเพื่อเที่ยวไปอย่างนั้น, จงประดับพวงดอกไม้นี้แล้ว นั่งบนหลังม้า
เที่ยวไปเถิด ' ดังนี้แล้ว ก็พระราชทานพวงดอกไม้ เช่นกับพวงแก้วมุกดา
ทั้งได้พระราชทานม้าที่ฝึกแล้วแก่ข้าพระองค์.
ต่อมา พระราชารับสั่งให้ข้าพระองค์ ผู้กำลังเที่ยวประกาศอยู่อย่าง
นั้นนั่นแล ด้วยเครื่องบริหารที่พระราชาพระราชทาน มาเฝ้า แล้วตรัสถาม
อีกว่า 'พ่อ เจ้าเที่ยวทำอะไร ? ' เมื่อข้าพระองค์ทูลว่า ' ข้าแต่สมมติเทพ
ข้าพระองค์ทำกรรมอย่างนั้นนั่นแล จึงตรัสว่า ' พ่อ แม้ม้าก็ไม่สมควร
แก่เจ้า. เจ้าจงนั่งบนรถนี้เที่ยวไปเถิด ' แล้วได้พระราชทานรถที่เทียม
ด้วยม้าสินธพ 4. แม้ในครั้งที่ 3 พระราชาทรงสดับเสียงของข้าพระองค์
แล้ว รับสั่งให้หา ตรัสถามว่า ่ พ่อ เจ้าเที่ยวทำอะไร ' เมื่อข้าพระองค์
ทูลว่า ' ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ทำกรรมนั้นแล ' จึงตรัสว่า ' แน่ะพ่อ
แม้รถก็ไม่สมควรแก่เจ้า ' แล้วพระราชทานโภคะเป็นอันมาก และเครื่อง

ประดับใหญ่ ทั้งได้พระราชทานช้างเชือกหนึ่งแก่ข้าพระองค์. ข้าพระองค์
นั้น ประดับด้วยอาภรณ์ทุกอย่าง นั่งบนคอช้าง ได้ทำกรรมของผู้
ป่าวร้องธรรมสิ้นแปดหมื่นปี กลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกายของข้าพระองค์
นั้น กลิ่นอุบลฟุ้งออกจากปาก ตลอดกาลมีประมาณเท่านี้; นี้เป็นกรรมที่
ข้าพระองค์ทำแล้ว. "

การปรินิพพานของสันตติมหาอำมาตย์


สันตติมหาอำมาตย์นั้น ครั้นทูลบุรพกรรมของตนอย่างนั้นแล้ว
นั่งบนอากาศเทียว เข้าเตโชธาตุ ปรินิพพานแล้ว. เปลวไฟเกิดขึ้นในสรีระ
ไหม้เนื้อและโลหิตแล้ว. ธาตุทั้งหลายดุจดอกมะลิเหลืออยู่แล้ว.
พระศาสดา ทรงคลี่ผ้าขาว. ธาตุทั้งหลายก็ตกลงบนผ้าขาวนั้น.
พระศาสดา ทรงบรรจุธาตุเหล่านั้นแล้ว รับสั่งให้สร้างสถูปไว้ที่ทางใหญ่
4 เเพร่ง ด้วยทรงประสงค์ว่า " มหาชนไหว้แล้ว จักเป็นผู้มีส่วน
แห่งบุญ. "

สันตติมหาอำมาตย์ควรเรียกว่าสมณะหรือพราหมณ์


พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า " ผู้มีอายุ สันตติมหาอำมาตย์
บรรลุพระอรหัตในเวลาจบพระคาถา ๆ เดียว ยังประดับประดาอยู่นั่น
แหละ นั่งบนอากาศปรินิพพานแล้ว. การเรียกเธอว่า ' สมณะ' ควร
หรือหนอแล ? หรือเรียกเธอว่า ' พราหมณ์ ' จึงจะควร. "
พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ
นั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ ? เมื่อภิกษุทั้งหลายทูลว่า ' พวก
ข้าพระองค์ นั่งประชุมกันด้วยกถาชื่อนี้ " จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย