เมนู

พระสุตตันตปิฎก


ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท


เล่มที่ 1 ภาคที่ 2


ตอนที่ 3


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


คาถาธรรมบท


ปาปวรรค1ที่ 9


ว่าด้วยบุญและบาป


[19] 1. บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี พึงห้ามจิต
เสียจากบาป เพราะว่าเมื่อบุคคลทำความดีช้าอยู่
ใจจะยินดีในบาป.
2. ถ้าบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่ควรทำบาปนั้น
บ่อย ๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะว่า
ความสั่งสมเป็นเหตุให้เกิดทุกข์.
3. ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้ พึงทำบุญนั้นบ่อย ๆ
พึงทำความพอใจในบุญนั้น เพราะว่าความสั่งสมบุญ
ทำให้เกิดสุข.
1. วรรคนี้มีอรรถกถา 12 เรื่อง.

4. แม้คนผู้ทำบุญ ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอด
กาลที่บาปยังไม่เผล็ดผล แต่เมื่อใดบาปเผล็ดผล
เมื่อนั้นเขาย่อมเห็นบาปว่าชั่ว ฝ่ายคนทำกรรมดี ย่อม
เห็นกรรมดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่กรรมดียังไม่เผล็ดผล
แต่เมื่อใดกรรมดีเผล็ดผล เมื่อนั้นเขาย่อมเห็นกรรม
ดีว่าดี.

5. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า บาปมีประมาณ
น้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตก
ลง (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนพาลเมื่อสั่งสมบาป
แม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้น.

6. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณ
น้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่
ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ธีรชน (ชนผู้มี
ปัญญา) สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญ
ได้ฉันนั้น.

7. บุคคลพึงเว้นกรรมชั่วทั้งหลายเสีย เหมือน
พ่อค้ามีทรัพย์มาก มีพวกน้อย เว้นทางอันพึงกลัว
(และ) เหมือนผู้ต้องการจะเป็นอยู่ เว้นยาพิษเสีย
ฉะนั้น.

8. ถ้าแผลไม่พึงมีในฝ่ามือไซร้ บุคคลพึงนำยา
พิษไปด้วยฝ่ามือได้ เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมเข้าไปสู่