เมนู

กำลังเที่ยวบิณฑบาต ได้เข้าไปสู่เรือนหลังนั้นแล้ว. นางวิสาขายืนพัด
พ่อผัวอยู่ เห็นพระเถระรูปนั้นว่า คิดว่า "การบอกพ่อผัวไม่ควร,"
จึงได้เลี่ยงออกไปยืนโดยอาการที่พ่อผัวนั้นจะเห็นพระเถระได้. แต่เศรษฐี
นั้นเป็นพาล แม้เห็นพระเถระ ก็แกล้งทำเป็นเหมือนไม่เห็น ก้มหน้า
บริโภคอยู่นั่นเอง.

นางวิสาขาติพ่อผัวว่าบริโภคของเก่า


นางวิสาขารู้ว่า " พ่อผัวของเราแม้เห็นพระเถระ ก็ไม่เอาใจใส่"
จึงกล่าวว่า "นิมนต์ไปข้างหน้าเถิด เจ้าข้า, พ่อผัวของดิฉันกำลังบริโภค
ของเก่า." เศรษฐีนั้น แม้อดกลั้นได้ในเวลาที่พวกนิครนถ์บอก (แต่)
ในขณะที่นางวิสาขากล่าวว่า "บริโภคของเก่า" นั่นเอง ก็วางมือ
กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจำข้าวปายาสนี้ไปเสียจากที่นี่, จงขับไล่นางนั่น
ออกจากเรือนนี้, นางคนนี้ทำให้เราเป็นผู้ชื่อว่าเคี้ยวกินของไม่สะอาด
ในกาลมงคลเช่นนี้."
ก็แลทาสและกรรมกรทั้งหมดในเรือนนั้น ล้วนเป็นคนของนาง
วิสาขา จึงไม่อาจจะเข้าใกล้ ใครจักจับนางที่มือหรือที่เท้า. แม้ผู้สามารถ
กล่าวด้วยปากก็ไม่มี.
นางวิสาขาฟังคำของพ่อผัวแล้ว กล่าวว่า "คุณพ่อ ดิฉันจะไม่
ออกไปด้วยเหตุเพียงเท่านี้ คุณพ่อมิได้นำดิฉันมา เหมือนนำนางกุมภทาสี
มาแต่ท่าน้ำ ธรรมดาธิดาของมารดาบิดาผู้ยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ออกไปด้วย
เหตุเพียงเท่านี้; เพราะเหตุนั้นแล ในเวลาจะมาที่นี้ คุณพ่อของดิฉัน

จึงได้เรียกกุฎุมพี 8 คนมา พูดว่า ' ถ้าโทษเกิดขึ้นแก่ธิดาของเรา'
ดังนี้แล้ว ก็มอบดิฉันไว้ในมือของกุฎุมพีเหล่านั้น คุณพ่อจงให้เรียกท่าน
เหล่านั้นมาแล้วให้ชำระโทษของดิฉัน."
เศรษฐีคิดว่า "นางวิสาขานี้ พูดดี" จึงให้เรียกกุฎุมพีทั้ง 8
มาแล้วบอกว่า "นางทาริกานี้ ว่าฉันผู้นั่งรับประทานข้าวปายาสมีน้ำข้น
ในถาดทอง ในเวลามงคลว่า 'ผู้กินของไม่สะอาด,' พวกท่านยกโทษ
นางวิสาขานี้ขึ้นแล้ว จงคร่านางนี้ออกจากเรือนนี้."
กุฎุมพี. ทราบว่า อย่างนั้นหรือ ? แม่.
วิสาขา. ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น. แต่เมื่อพระเถระผู้ถือการเที่ยว
บิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง ยืนอยู่ที่ประตูเรือน, พ่อผัวของฉัน กำลัง
รับประทานข้าวมธุปายาสมีน้ำน้อย ไม่ใส่ใจถึงพระเถระนั้น, ฉันคิดว่า
พ่อผัวของเรา ไม่ทำบุญในอัตภาพนี้, บริโภคแต่บุญเก่าเท่านั้น, จึง
ได้พูดว่า นิมนต์ไปข้างหน้าเถิด เจ้าข้า, พ่อผัวของดิฉัน กำลังบริโภค
ของเก่า.' โทษอะไรของดิฉันจะมีในเพราะเหตุนี้เล่า ?
กุฎุมพี. ท่าน โทษในเพราะเหตุนี้ มิได้มี ธิดาของข้าพเจ้า
กล่าวชอบ. เหตุไร ท่านจึงโกรธ ?
เศรษฐี. ท่านทั้งหลาย โทษอันนี้ เป็นอันพ้นไปก่อน, แต่
วันหนึ่ง ในมัชฌิมยาม นางวิสาขานี้อันคนใช้ชายหญิงแวดล้อมแล้ว
ได้ไปหลังเรือน.
กุฎุมพี. ทราบว่า อย่างนั้นหรือ ? แม่.
วิสาขา. พ่อทั้งหลาย ดิฉันไม่ได้ไปเพราะเหตุอื่น, ก็เมื่อนางลา
แม่ม้าอาชาไนยตกลูกแล้วใกล้เรือนนี้ ดิฉันคิดว่า ' การที่นั่งเฉยไม่เอา

เป็นธุระเสียเลย ไม่สมควร' จึงให้คนถือประทีปด้ามไปกับพวกหญิง
คนใช้ ให้ทำการบริหารแก่แม่ลาที่ตกลูกแล้ว, ในเพราะเหตุนี้ ดิฉัน
จะมีโทษอะไร ?
กุฎุมพี. ท่าน ธิดาของพวกข้าพเจ้า ทำกรรมแม้พวกหญิงคนใช้
ไม่พึงทำในเรือนของท่าน, ท่านยังเห็นโทษอะไร ในเพราะเหตุนี้ ?
เศรษฐี. ท่านทั้งหลาย แม้ในเรื่องนี้ จะไม่มีโทษ ก็ช่างเถอะ,
แต่ว่า บิดาของนางวิสาขานี้ เมื่อกล่าวสอนนางวิสาขานี้ ในเวลาจะมา
ที่นี้ ได้ให้โอวาท 10 ข้อซึ่งลี้ลับปิดบัง, เราไม่ทราบเนื้อความแห่ง
โอวาทนั้น, นางจงบอกเนื้อความแห่งโอวาทนั้นแก่เรา; ก็บิดาของนางนี้
ได้บอกว่า 'ไฟในไม่พึงนำออกไปภายนอก' พวกเราอาจหรือหนอ ?
เพื่อจะไม่ให้ไฟแก่เรือนคุ้นเคยทั้งสองฝ่ายแล้วอยู่ได้."

นางวิสาขาชนะความพ่อผัว


กุฎุมพี. ทราบว่าอย่างนั้นหรือ ? แม่.
วิสาขา. พ่อทั้งหลาย คุณพ่อของดิฉันมิได้พูดหมายความดังนั้น,
แต่ได้พูดหมายความดังนี้ว่า ' แม่ เจ้าเห็นโทษของแม่ผัวพ่อผัวและสามี
ของเจ้าแล้ว อย่าเฝ้ากล่าว ณ ภายนอกคือในเรือนนั้น ๆ, เพราะว่า
ขึ้นชื่อว่าไฟ เช่นกับไฟชนิดนี้ ย่อมไม่มี.
เศรษฐี. ท่านทั้งหลาย ข้อนั้นยกไว้ก่อน, ก็บิดาของนางวิสาขานี้
กล่าวว่า 'ไฟแต่ภายนอก ไม่พึงให้เข้าไปภายใน, พวกเราอาจเพื่อจะ
ไม่ไปนำไฟมาจากภายนอกหรือ ? ในเมื่อไฟใน (เรือน) ดับ.
กุฎุมพี. ทราบว่าอย่างนั้นหรือ ? แม่.