เมนู

ที่พวกฉันวิ่งไป เหยียบชายผ้านุ่งหรือลื่นล้มลงบนพื้นดิน มือหรือเท้า
ก็จะพึงหัก, พวกฉันก็จะพึงเป็นภาระของตระกูลนั่นแล, ส่วนเครื่อง
แต่งตัว เปียกแล้วก็จะแห้ง; ดิฉันกำหนดเหตุนี้ จึงไม่วิ่งไป พ่อ.

พราหมณ์สวมมาลัยทองให้


พวกพราหมณ์เห็นความถึงพร้อมแห่งฟัน ในเวลานางพูด จึงให้
สาธุการแก่นางว่า "สมบัติเช่นนี้ พวกเรายังไม่เคยเห็นเลย" แล้ว
กล่าวว่า "แม่ พวกมาลัยนี้ สมควรแก่เธอเท่านั้น" ดังนี้แล้ว จึงได้
คล้องพวงมาลัยทองนั้นให้. ลำดับนั้น นางจึงถามพวกเขาว่า "พ่อ
ทั้งหลาย พวกท่านมาจากเมืองไหน ?
พราหมณ์. จากเมืองสาวัตถี แม่.
วิสาขา. ตระกูลเศรษฐี ชื่อไร ?
พราหมณ์. ชื่อมิคารเศรษฐี แม่.
วิสาขา. บุตรของท่านเจ้าพระคุณ ชื่อไร ?
พราหมณ์. ชื่อปุณณวัฒนกุมาร แม่.
นางวิสาขานั้น รับรองว่า "ตระกูลของเรา เสมอกัน" ดังนี้แล้ว
จึงส่งข่าวไปแก่บิดาว่า "ขอคุณพ่อและคุณแม่ จงส่งรถไปให้พวกดิฉัน."
ก็ในเวลามา นางเดินมาก็จริง, อย่างนั้น จำเดิมแต่กาลที่ประดับด้วย
มาลัยทองคำแล้ว ย่อมไม่ได้เพื่อจะไปเช่นนั้น. เด็กหญิงทั้งหลายผู้มีอิสระ
ย่อมไปด้วยยานมีรถเป็นต้น, หญิงนอกนี้ขึ้นยานธรรมดา (ไป), กั้นแตร
หรือใบตาลข้างบน, เมื่อฉัตรหรือใบตาล แม้นั้นไม่มี ก็ยกชายผ้านุ่ง
ขึ้นมาพาดบนบ่าทีเดียว, ส่วนบิดาของนางวิสาขานั้น ส่งรถไป 500 คัน.

นางวิสาขานั้นกับบริวารขึ้นรถไปแล้ว แม้พวกพราหมณ์ ก็ได้ไปด้วยกัน.
ทีนั้น ท่านเศรษฐี ถามพราหมณ์เหล่านั้นว่า "พวกท่านมาจาก
ไหน ?"
พราหมณ์. มาจากเมืองสาวัตถี ท่านมหาเศรษฐี.
เศรษฐี. เศรษฐีชื่อไร ?
พราหมณ์. ชื่อมิคารเศรษฐี.
เศรษฐี. บุตรชื่อไร ?
พราหมณ์. ชื่อปุณณวัฒนกุมาร.
เศรษฐี. ทรัพย์มีเท่าไร ?
พราหมณ์. 40 โกฏิ ท่านมหาเศรษฐี.
เศรษฐีรับคำ ด้วยคิดว่า "ทรัพย์เท่านั้น, เทียบทรัพย์ของ
เรา ก็เท่ากับกากณิกเดียว. แต่จะประโยชน์อะไรด้วยเหตุอื่น จำเดิม
แต่กาลที่นางทาริกาได้เหตุเพียงการรักษา." เศรษฐีนั้น ทำสักการะแก่
พราหมณ์เหล่านั้น ให้พักอยู่วัน 2 วัน แล้วก็ส่งกลับ.

พราหมณ์กลับเมืองสาวัตถี


พวกเขา ไปกรุงสาวัตถีแล้ว เรียน (ท่านเศรษฐี) ว่า "พวก
ข้าพเจ้าได้นางทาริกาแล้ว."
เศรษฐี. ลูกสาวของใคร ?
พราหมณ์. ของธนญชัยเศรษฐี.
เศรษฐีนั้น คิดว่า "นางทาริกาแห่งตระกูลใหญ่ อันเราได้แล้ว,
ควรที่เราจะนำนางมาโดยเร็วทีเดียว " ดังนี้แล้ว กราบทูลแด่พระราชา