เมนู

นั้นด้วยโคมัยสด โปรยดอกไม้ซึ่งมีข้าวตอกเป็นที่ 5 ลง แล้วปูลาด
อาสนะอันควรแก่ค่ามาก เพื่อประโยชน์แก่การประทับนั่งของพระศาสดา.
จริงอยู่ พวกมนุษย์ที่ไม่คุ้นเคยกับพระพุทธเจ้า ย่อมไม่รู้จักการปูลาด
อาสนะ.

พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยือนอุบาสิกา


อนึ่ง ชื่อว่ากิจ ( เนื่อง ) ด้วยผู้แสดงทาง ย่อมไม่มีแก่พระ-
พุทธเจ้าทั้งหลาย: เพราะหนทางทั้งหมดแจ่มแจ้งแก่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
แล้วว่า "ทางนี้ไปนรก, นี้ไปกำเนิดดิรัจฉาน, นี้ไปเปตวิสัย, นี้ไป
มนุษยโลก, นี้ไปเทวโลก, นี้ไปอมตนิพพาน" ในวันที่ทรงยังหมื่นแห่ง
โลกธาตุให้หวั่นไหว แล้วบรรลุสัมโพธิที่โคนต้นโพธินั่นแล, จึงไม่มี
คำที่ควรกล่าวในหนทางแห่งสถานที่ต่าง ๆ มีคามและนิคมเป็นต้นเลย
เพราะฉะนั้น พระศาสดาทรงถือบาตรและจีวรแล้ว จึงเสด็จไปสู่ประตูเรือน
ของมหาอุบาสิกาแต่เช้าตรู่. นางออกมาจากเรือน ถวายบังคมพระศาสดา
ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ อัญเชิญให้เสด็จเข้าไปภายในเรือน ให้ประทับนั่ง
เหนืออาสนะแล้วถวายทักษิโณทก อังคาสด้วยชาทนียะ และโภชนียะ
อันประณีต. อุบาสิกาประสงค์จะให้พระศาสดาผู้ทรงทำภัตกิจเสร็จแล้ว
ทรงกระทำอนุโมทนาจึงรับบาตรแล้ว.

อุบาสิกาฟังธรรมแล้วถูกอาชีวกด่า


พระศาสดา ทรงเริ่มธรรมกถาสำหรับอนุโมทนา ด้วยพระสุรเสียง
อันไพเราะ. อุบาสิกาฟังธรรมพลางให้สาธุการว่า " สาธุ สาธุ. "
อาชีวกนั่งอยู่ห้องหลังนั่นแล ได้ยินเสียงนางให้สาธุการแล้วฟังธรรมอยู่