เมนู

6. เรื่องปาฏิกาชีวก [38]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภอาชีวกชื่อ
ปาฏิกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "น ปเรสํ วิโลมานิ" เป็นต้น.

ชาวบ้านสรรเสริญธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า


ดังได้สดับมา หญิงแม่เรือนคนหนึ่งในกรุงสาวัตถี ปฏิบัติอาชีวก
ชื่อปาฏิกะ ตั้งไว้ในฐานะดังลูก. พวกมนุษย์ในเรือนใกล้เคียงของนาง
ฟังธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มาพรรณนาพระพุทธคุณโดยประการ
ต่าง ๆ เป็นต้นว่า " แหม ! พระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
น่าอัศจรรย์ (นัก)."

นางอยากไปฟังธรรมแต่ไม่สมประสงค์


หญิงแม่เรือนนั้น ฟังถ้อยคำสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว
ประสงค์จะไปสู่วิหารแล้วฟังธรรม จึงเล่าความนั้นแก่อาชีวก แล้วกล่าว
ว่า "พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันจักไปสำนักของพระพุทธเจ้า."
อาชีวกนั้นห้ามว่า " อย่าไปเลย" แล้วก็เลยห้ามนางแม้ผู้อ้อนวอน
อยู่แล้ว ๆ เล่า ๆ เสียทีเดียว.
นางคิดว่า " พระผู้เป็นเจ้านี้ ไม่ให้เราไปวิหารฟังธรรม. เรา
จักนิมนต์พระศาสดามา แล้วฟังธรรมในที่นี้แหละ" ดังนี้แล้ว ใน
เวลาเย็น จึงเรียกบุตรชายมาแล้วส่งไปด้วยคำว่า " เจ้าจงไป, จงนิมนต์

พระศาสดามาเพื่อเสวยภัตตาหารพรุ่งนี้."
บุตรชายนั้น เมื่อจะไป ก็ไปที่อยู่ของอาชีวกก่อน ไหว้อาชีวก
แล้วนั่ง. ทีนั้น อาชีวกนั้นถามเขาว่า "เธอจะไปไหน ?"
บุตร. ผมจะไปนิมนต์พระศาสดาตามคำสั่งของคุณแม่.
อาชีวก. อย่าไปสำนักของพระองค์เลย.
บุตร. ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า, ผมจักไป.
อาชีวก. เราทั้งสองคน จักกินเครื่องสักการะที่คุณแม่ของเธอทำ
ถวายพระศาสดานั่น, อย่าไปเลย.
บุตร. ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า. คุณแม่จักดุผม.
อาชีวก. ถ้ากระนั้น ก็ไปเถิด. ก็แล ครั้นไปแล้ว จงนิมนต์
(แต่) อย่าบอกว่า 'พระองค์พึงเสด็จไปเรือนของพวกข้าพระองค์ในที่
โน้น ในถนนโน้น หรือโดยหนทางโน้น' (ทำ) เป็นเหมือนยืนอยู่ใน
ที่ใกล้เหมือนจะไปโดยหนทางอื่น จงหนีมาเสีย.

บุตรชายทำตามคำของชีวก


เขาฟังถ้อยของอาชีวกแล้วไปสำนักของพระศาสดา นิมนต์แล้ว
ทำกิจทุกสิ่งโดยทำนองอาชีวกกล่าวแล้วนั่นแล แล้วไปสำนักของอาชีวก
นั้น ถูกอาชีวกถามว่า " เธอทำอย่างไร ?" จึงตอบว่า "ที่ท่านบอก
ทั้งหมด ผมทำแล้ว ขอรับ." อาชีวกกล่าวว่า " เธอทำดีแล้ว, เรา
ทั้งสองคนจักกินเครื่องสักการะที่คุณแม่ของเธอทำไว้เพื่อพระศาสดานั้น"
ดังนี้แล้ว ในวันรุ่งขึ้น อาชีวกได้ไปสู่เรือนนั้นแต่เช้าตรู่. พวกคน
ในบ้านพาชีวกนั้นให้ไปนั่งที่ห้องหลัง, พวกมนุษย์คุ้นเคยฉาบทาเรือน