เมนู

14. เรื่องพระพหุปุตติกาเถรี [94]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระพหุปุตติกา-
เถรี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โย จ วสฺสสตํ ชีเว" เป็นต้น.

นางมีลูกมาก


ได้ยินว่า ในตระกูลหนึ่ง ณ กรุงสาวัตถี ได้มีบุตร 7 คนและ
ธิดา 7 คน บุตรและธิดาแม้ทั้งหมดนั้นเจริญวัยแล้ว ดำรงอยู่ในเรือน
ได้ถึงความสุขตามธรรมดาของตน. สมัยอื่น บิดาของชนเหล่านั้นได้ทำ
กาละแล้ว.
มหาอุบาสิกา ถึงเมื่อสามีล่วงลับไปแล้ว ก็ยังไม่แบ่งกองทรัพย์ให้
แก่บุตรทั้งหลายก่อน. ครั้งนั้น บุตรทั้งหลายกล่าวกะมารดานั้นว่า "เมื่อ
บิดาของฉันล่วงลับไปแล้ว, ประโยชน์อะไรของแม่ด้วยกองทรัพย์, พวก
ฉันไม่อาจบำรุงแม่ได้หรือ ?" นางฟังคำของบุตรเหล่านั้นแล้วก็นิ่งเสีย
ถูกบุตรเหล่านั้นพูดบ่อย ๆ จึงคิดว่า "พวกลูก ๆ จักบำรุงเรา, ประ-
โยชน์อะไรของเราด้วยกองทรัพย์ส่วนหนึ่ง" ได้แบ่งสมบัติทั้งหมดครึ่งหนึ่ง
ให้ไป
ครั้งนั้น โดยกาลล่วงไป 2-3 วัน ภรรยาของบุตรคนใหญ่กล่าว
กะแม่ผัวนั้นว่า "โอ คุณแม่ของพวกเรามาเรือนนี้เท่านั้นเหมือนกะให้
ไว้ 2 ส่วนว่า 'บุตรชายคนใหญ่ของเรา." แม้ภรรยาของบุตรที่เหลือ
ก็กล่าวอย่างนั้นเหมือนกัน.

ตั้งต้นแต่ธิดาคนใหญ่ก็กล่าวกะนางดุจเดียวกัน แม้ในเวลาที่นางไป
เรือนของธิดาเหล่านั้น. นางถูกดูหมิ่น คิดว่า "ประโยชน์อะไร ด้วย
การอยู่ในสำนักของคนเหล่านี้. เราจักเป็นนางภิกษุณีเป็นอยู่ " แล้วไปสู่
สำนักของนางภิกษุณีขอบรรพชาแล้ว . นางภิกษุณีเหล่านั้นให้นางบรรพชา
แล้ว. นางได้อุปสมบทแล้วปรากฏชื่อว่า "พหุปุตติกาเถรี." นางคิดว่า
" เราบวชในเวลาแก่, เราไม่ควรเป็นคนประมาท" จึงทำวัตรปฏิบัติแก่
นางภิกษุณีทั้งหลาย, คิดว่า " จักทำสมณธรรมตลอดคืนยังรุ่ง" จึงเอา
มือจับเสาต้นหนึ่งที่ภายใต้ปราสาท เดินเวียนเสานั้นทำสมณธรรม แม้
เมื่อเดินจงกรมก็เอามือจับต้นไม้ด้วยคิดว่า "ศีรษะของเราพึงกระทบต้น
ไม้หรือที่ไหน ๆ ในที่มืด " ดังนี้แล้ว เดินวนเวียนต้นไม้นั้น ทำสมณ-
ธรรม, นึกถึงธรรมด้วยคิดว่า "จักทำตามธรรมที่พระศาสดาทรงแสดง"
ตามระลึกถึงธรรมอยู่เทียวทำสมณธรรม.
ลำดับนั้น พระศาสดาประทับนั่งในพระคันธกุฎีเทียว ทรงแผ่พระ-
รัศมีไปดังประทับนั่งตรงหน้า เมื่อตรัสกับนาง ตรัสว่า "พหุปุตติกา
ความเป็นอยู่แม้ครู่เดียวของผู้เห็นธรรม ที่เราแสดง ประเสริฐกว่าความ
เป็นอยู่ 100 ปี ของผู้ไม่พิจารณา ผู้ไม่เห็นธรรมที่เราแสดง" เมื่อ
จะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
14. โย จ วสฺสสตํ ชีเว อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปสฺสโต ธมฺมมุตฺตมํ.
"ก็ผู้ใด ไม่เห็นธรรมอันยอดเยี่ยม พึงเป็นอยู่
100 ปี ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้เห็นธรรมอัน
ยอดเยี่ยม ประเสริฐกว่า ความเป็นอยู่ของผู้นั้น."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ธ มฺมมุตฺตมํ ได้แก่ โลกุตรธรรม
9 อย่าง. ก็โลกุตรธรรมนั้น ชื่อว่า ธรรมอันยอดเยี่ยม. ก็ผู้ใดไม่เห็นธรรม
อันยอดเยี่ยมนั้น, ความเป็นอยู่แม้วันเดียว คือแม้ขณะเดียว ของผู้เห็น
คือแทงตลอดธรรมนั้น ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ 100 ปี ของผู้นั้น.
ในกาลจบคาถา พระพหุปุตติกาเถรีดำรงอยู่ในพระอรหัตพร้อม
ด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ดังนี้แล.
เรื่องพระพหุปุตติกาเถร จบ.
สหัสสวรรควรรณนา จบ.
วรรคที่ 8 จบ.