เมนู

เกิดเป็นอุปนิสัยแห่งพระอรหัตของภิกษุนั้น ในกาลบัดนี้แล.

ชีวิตของผู้ปรารภความเพียรวันเดียวประเสริฐ


ภิกษุเหล่านั้นฟังเนื้อความนี้จากสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทูล
ถามยิ่งขึ้นว่า "พระเจ้าข้า ได้ยินว่า ภิกษุนี้ยืนจดคมมีดโกนที่ก้านคออยู่
เทียวบรรลุพระอรหัต, พระอรหัตมรรคเกิดขึ้นได้โดยขณะเพียงเท่านั้น
หรือหนอแล ?"
พระศาสดาตรัสว่า "อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย, เมื่อภิกษุผู้ปรารภ
ความเพียร ยกเท้าขึ้นวางบนพื้น เมื่อเท้ายังไม่ทันถึงฟื้นเลย พระอรหัต-
มรรคก็ได้เกิดขึ้น; แท้จริง ความเป็นอยู่แม้เพียงชั่วขณะของท่านผู้ปรารภ
ความเพียร ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ 100 ปี ของบุคคลผู้เกียจคร้าน"
ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
11. โย จ วสฺสสตํ ชีเว กุสีโต หีนวีริโย
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย วีริยํ อารภโต ทฬฺหํ.
" ผู้ใดเกียจคร้านมีความเพียรอันทราม พึง
เป็นอยู่ 100 ปี, ความเป็นอยู่วันเดียว ของท่านผู้
ปรารภความเพียรมั่น ประเสริฐกว่าชีวิต ของผู้นั้น.
"

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กุสีโต ได้แก่ บุคคลผู้ยังเวลาให้ล่วง
ไปด้วยวิตก 3 มีกามวิตกเป็นต้น.

บทว่า หีนวีริโย คือไร้ความเพียร.
บาทพระคาถาว่า วีริยํ อารภโจ ทฬฺหํ ความว่า ผู้ปรารภ
ความเพียรมั่นคง ซึ่งสามารถยังฌาน 2 ประการให้เกิด.
คำที่เหลือ เช่นเดียวกับคำมีในก่อนนั่นแล.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระสัปปทาสเถระ จบ.

12. เรื่องนางปฏาจารา [92]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระ-
ปฏาจาราเถรี ตรัสพระคาถานี้ว่า "โย จ วสฺสสตํ ชีเว" เป็นต้น.

ความรักไม่เลือกชั้นวรรณะ


ดังได้สดับมา นางปฏาจารานั้นได้เป็นธิดาของเศรษฐีผู้มีสมบัติ
40 โกฏิในกรุงสาวัตถี มีรูปงาม. ในเวลานางมีอายุ 16 ปี มารดา
บิดาเมื่อจะรักษา จึงให้นางอยู่บนชั้นบนปราสาท 7 ชั้น. ถึงเมื่อเป็น
เช่นนั้น นางก็ยังสมคบกับคนรับใช้คนหนึ่งของตน. ครั้งนั้นมารดา
บิดาของนางยกให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ในสกุลที่มีชาติเสมอกันแล้ว
กำหนดวันวิวาหะ. เมื่อวันวิวาหะนั้นใกล้เข้ามา, นางจึงพูดกะคนรับใช้
ผู้นั้นว่า "ได้ยินว่า มารดาบิดาจักยกฉันให้แก่สกุลโน้น, ในกาลที่ฉัน
ไปสู่สกุลผัว ท่านแม้ถือบรรณาการเพื่อฉันมาแล้ว ก็จักไม่ได้เข้าไปในที่
นั้น, ถ้าท่านมีความรักในฉัน, ก็จงพาฉันหนีไปโดยทางใดทางหนึ่งใน
บัดนี้นี้แล." คนรับใช้นั้นรับว่า " ดีละ นางผู้เจริญ" แล้วกล่าวว่า " ถ้า
อย่างนั้นฉันจักยืนอยู่ในที่ชื่อโน้นแห่งประตูเมืองแต่เวลาเช้าตรู่พรุ่งนี้,
หล่อนพึงออกไปด้วยอุบายอย่างหนึ่งแล้ว มาในที่นั้น" ในวันที่ 2 ก็
ได้ยืนอยู่ในที่นัดหมายกันไว้.