เมนู

นั้น จึงกล่าวว่า "อุบาสก ท่านหิวจัด, จงไป, นำใบไม้มา, พวกเรา
จักให้ก้อนภัตแก่ท่านรูปละก้อน" เมื่อเขานำใบไม้มาแล้ว; จึงคลุกด้วย
แกงและกับ โดยทำนองที่จะฉันด้วยตน ๆ ได้ให้ก้อนภัตรูปละก้อน.
ทราบว่า ธรรมเนียมมีดังนี้ ภิกษุผู้จะให้ภัตแก่ผู้มาถึงในเวลาฉัน ไม่
ให้ภัตตอนยอด1 พึงให้น้อยบ้าง มากบ้าง โดยทำนองที่จะฉันด้วยตน
นั้นแล; เพราะฉะนั้น ภิกษุแม้เหล่านั้น จึงได้ให้อย่างนั้น. บุรุษนั้นทำ
ภัตกิจแล้วไหว้พระเถระทั้งหลาย ถามว่า "ท่านขอรับ พวกพระผู้เป็นเจ้า
ใคร ๆ นิมนต์ไว้หรือ ?"
พวกภิกษุ. ไม่มีการนิมนต์ดอก อุบาสก, พวกมนุษย์ถวายอาหาร
เช่นนี้แหละทุกวัน ๆ.
ทุคตบุรุษคิดว่า "เราแม้ขยันขันแข็งทำงานตลอดกาลเป็นนิตย์
ก็ไม่อาจได้อาหารเช่นนั้น, ประโยชน์อะไรของเราด้วยการไปที่อื่น, เรา
จักเป็นอยู่ในสำนักของภิกษุเหล่านี้นี่แหละ." ลำดับนั้น จึงกล่าวกะภิกษุ
เหล่านี้ว่า "กระผมปรารถนาจะทำวัตรปฏิบัติอยู่ในสำนักของพวกพระผู้-
เป็นเจ้า."
พวกภิกษุ. ดีละ อุบาสก.

ทุคตบุรุษหนีพวกภิกษุไปเยี่ยมธิดา


เขาไปที่อยู่ของภิกษุเหล่านั้นกับภิกษุเหล่านั้น ทำวัตรปฏิบัติเป็น
อันดี ยังพวกภิกษุให้รักใคร่อย่างยิ่ง โดยล่วงไป 2 เดือน ปรารถนาจะ
ไปเยี่ยมธิดา คิดว่า "ถ้าเราจักอำลาพวกพระผู้เป็นเจ้า, พระผู้เป็นเจ้า
1. อนามัฏฐบิณฑบาต ภิกษุละเมิดธรรมเนียมนี้ ท่านปรับอาบัติทุกกฏ.

ทั้งหลาย จักไม่ปล่อยเรา, เราจักไม่อำลาไปละ" ดังนี้แล้ว ก็ไม่บอก
แก่ภิกษุเหล่านั้นเลยออกไปแล้ว. ทราบว่า ข้อที่เขาไม่บอกพวกภิกษุ
หลีกไปเท่านั้น ได้เป็นความพลั้งพลาดอย่างขนาดใหญ่, ก็ในหนทางไป
ของบุรุษนั้น มีดงอยู่แห่งหนึ่ง. วันที่ 7 เป็นวันของโจร 500 คน
ผู้ทำการบนบานเทวดาว่า " ผู้ใดจักเข้าสู่ดงนี้, พวกเราจักฆ่าผู้นั้นแล้ว
ทำพลีกรรมแด่ท่าน ด้วยเนื้อและเลือดของผู้นั้นแหละ" แล้วอยู่ในดง
นั้น.

เขาถูกโจรจับในกลางดง


เพราะฉะนั้น ในวันที่ 7 หัวหน้าโจรขึ้นต้นไม้ตรวจดูพวกมนุษย์
เห็นบุรุษนั้นเดินมา จึงได้ให้สัญญาแก่พวกโจร. โจรเหล่านั้นรู้ความที่
บุรุษนั้นเข้าสู่กลางดง จึงล้อมจับเขา ทำการผูกอย่างมั่นคง สีไฟด้วยไม้
สีไฟ ขนฟืนมาก่อเป็นกองไฟใหญ่ เสี้ยมหลาวไว้. บุรุษนั้นเห็นกิริยา
ของโจรเหล่านั้น ถึงถามว่า "นาย ในที่นี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นหมูและเนื้อ
เป็นต้นเลย, เหตุไร พวกท่านจึงทำหลาวนี้ ?"
พวกโจร. พวกเราจักฆ่าเจ้า ทำพลีกรรมแก่เทวดา ด้วยเนื้อและ
เลือดของเจ้า.
บุรุษนั้นถูกมรณภัยคุกคาม มิได้ติดถึงอุปการะนั้นของพวกภิกษุ
เมื่อจะรักษาชีวิตของตนอย่างเดียวเท่านั้น จึงกล่าวอย่างนี้ว่า "นาย
ข้าพเจ้าเป็นคนกินเดน กินภัตที่เป็นเดนเติบโต, ขึ้นชื่อว่าคนกินเดน
เป็นคนกาลกิณี; ก็พวกพระผู้เป็นเจ้า แม้ออกบวชจากสกุลใดสกุลหนึ่ง
เป็นกษัตริย์ทีเดียว; ภิกษุ 31 รูปอยู่ในที่โน้น พวกท่านจงฆ่าภิกษุ
เหล่านั้นแล้วทำกรรม, เทวดาของพวกท่านจักยินดี เป็นอย่างยิ่ง."