เมนู

พระศาสดาทรงแสดงธรรมโปรดพราหมณ์


พระศาสดาตรัสถามว่า "ได้ยินว่า อย่างนั้นหรือ ?" เมื่อพราหมณ์
นั้นทูลว่า "อย่างนั้น พระโคดมผู้เจริญ" จึงตรัสว่า "พราหมณ์
การบำเรอไฟของท่านผู้บำเรอไฟอย่างนั้น ตั้ง 100 ปี ย่อมไม่ถึงแม้
การบูชาสาวกของเรา เพียงขณะเดียว" เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม
จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
6. โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ อคฺคึ ปริจเร วเน
เอกญฺจ ภาวิตตฺตานํ มุหุติตมปิ ปูชเย
สา เยว ปูชนา เสยฺโย ยญฺเจ วสฺสสตํ หุตํ.
"ก็สัตว์ใด พึงบำเรอไฟในป่า ตั้ง 100 ปี,
ส่วนเขา พึงบูชาท่านผู้มีตนอบรมแล้วผู้เดียว แม้
ครู่หนึ่ง, การบูชานั้นนั่นแลประเสริฐกว่า ( การบูชา
ตั้ง 100 ปี ของสัตว์นั้น) การบูชา 100 ปี
จะประเสริฐอะไรเล่า ?"

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชนฺตุ นี้ เป็นชื่อของสัตว์. บาทพระ-
คาถาว่า อคฺคึ ปริจเร วเน ความว่า แม้เข้าไปสู่ป่า ด้วยปรารถนา
ความเป็นผู้ไม่มีธรรมเครื่องเนิ่นช้า พึงบำเรอไฟในป่านั้น.
คำที่เหลือ เช่นเดียวกับคำที่มีในก่อนนั้นแล.

ในเวลาจบเทศนา พราหมณ์บรรลุโสดาปัตติผล. ชนแม้เหล่าอื่น
เป็นอัน มากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นหลานของพระสารีบุตรเถระ จบ.

7. เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นสหายของพระสารีบุตรเถระ [87]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพราหมณ์ผู้
เป็นสหายของพระสารีบุตรเถระ. ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยงฺกิญฺจิ
ยิฏฺฐญฺจ"
เป็นต้น.

พระเถระพาสหายไปเฝ้าพระศาสดา


ความพิสดารว่า พระเถระเข้าไปหาพราหมณ์แม้นั้นแล้ว ถามว่า
"พราหมณ์ ท่านทำกุศลบางอย่างหรือ ?"
พราหมณ์. อย่างนั้น ขอรับ.
พระเถระ. ทำกุศลอะไร ?
พราหมณ์. บูชายัญอย่างที่เขาบูชากัน.
ทราบว่า ครั้งนั้น ชนทั้งหลายย่อมบูชายัญนั้น ด้วยการบริจาค
อย่างมาก. ต่อแต่นี้ พระเถระถามโดยนัยก่อนนั่นแล แล้วนำพราหมณ์
นั้นไปยังสำนักของพระศาสดา ทูลเรื่องนั้นแล้ว กราบทูลว่า " พระ-
เจ้าข้า ขอพระองค์ตรัสบอกทางแห่งพรหมโลก แก่พราหมณ์นี้."

พระศาสดาทรงแสดงธรรมโปรดพราหมณ์


พระศาสดาตรัสถามว่า ได้ยินว่าอย่างนั้นหรือ ? พราหมณ์"
เมื่อพราหมณ์ทูลรับว่า "อย่างนั้น" แล้ว จึงตรัสว่า "พราหมณ์
ทานที่ท่านบูชายัญอย่างที่เขาบูชากัน ให้แก่โลกิยมหาชนตั้งปี ย่อมไม่ถึง