เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สหสฺเสน ความว่า ด้วยการบริจาค
ทรัพย์พันหนึ่ง.
บาทพระคาถาว่า โย ยเชถ สตํ สมํ ความว่า ผู้ใดเมื่อบริจาค
ทรัพย์พันหนึ่งทุก ๆ เดือน พึงให้ทานแก่โลกิยมหาชน สิ้น 100 ปี.
บาทพระคาถาว่า เอกญฺจ ภาวิตฺตานํ ความว่า ส่วนผู้ใดพึง
บูชาท่านผู้มีในอบรมแล้ว ด้วยอำนาจแห่งคุณผู้เดียว โดยที่สุดเบื้องต่ำเป็น
พระโสดาบัน โดยที่สุดเบื้องสูงเป็นพระขีณาสพ ผู้มาถึงแทบประตูเรือน
ด้วยอำนาจถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง ด้วยอำนาจถวายอาหาร พอยังอัตภาพ
ให้เป็นไปได้ หรือด้วยเพียงถวายผ้าเนื้อหยาบ, บูชาของผู้นั้นนั่นแล
ประเสริฐ คือล้ำเลิศ ได้แก่ สูงสุดกว่าความบูชาอันบุคคลนอกนี้บูชา
แล้ว สิ้น 100 ปี.
ในเวลาจบเทศนา พราหมณ์นั้นบรรลุโสดาปัตติผลแล้ว, ชนแม้
เหล่าอื่นเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นลุงของพระสารีบุตรเถระ จบ.

6. เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นหลานของพระสารีบุตรเถระ [86]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภหลานของ
พระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ"
เป็นต้น .

พระเถระพาหลานไปเฝ้าพระศาสดา


ความพิสดารว่า พระเถระเข้าไปหาหลานแม้นั้นแล้ว ถามว่า
"พราหมณ์ เธอทำกุศลหรือ ?"
พราหมณ์. อย่างนั้น ขอรับ.
พระเถระ. ทำกุศลอะไร ?
พราหมณ์. ฆ่าสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งแล้วบำเรอไฟทุก ๆ เดือน.
พระเถระ. ทำอย่างนั้น เพื่ออะไร ?
พราหมณ์. เขาว่า นั่นเป็นทางแห่งพรหมโลก.
พระเถระ. ใคร ว่าอย่างนั้น ?
พราหมณ์. พวกอาจารย์ของกระผม ขอรับ.
พระเถระกล่าวว่า " เธอไม่รู้ทางแห่งพรหมโลกเลย. แม้พวก
อาจารย์ของเธอก็ไม่รู้ มาเถิด, เราจักไปสำนักของพระศาสดา" ดังนี้
แล้ว นำหลานนั้นไปสู่สำนักของพระศาสดา ทูลเรื่องนั้นแล้ว กราบทูลว่า
" พระเจ้าข้า ขอพระองค์ตรัสบอกทางแห่งพรหมโลกแก่พราหมณ์นี้."