เมนู

พระเถระกล่าวว่า "ท่านไม่รู้ทางแห่งพรหมโลกทีเดียว, แม้พวก
อาจารย์ของท่านก็ไม่รู้: พระศาสดาพระองค์เดียวเท่านั้น ทรงรู้, มาเถิด
พราหมณ์. ฉันจะทูลอาราธนาให้พระองค์ตรัสบอกทางแห่งพรหมโลกแก่
ท่าน" ดังนี้แล้ว พาพราหมณ์นั้น นำไปสู่สำนักของพระศาสดา กราบ
ทูลเรื่องนั้นว่า พราหมณ์ผู้นี้ กล่าวอย่างนั้น พระเจ้าข้า" แล้วกราบทูล
ว่า "ดีละหนอ ขอพระองค์ตรัสบอกทางแห่งพรหมโลกแก่พราหมณ์นั้น."

พระศาสดาทรงแสดงธรรมโปรดพราหมณ์


พระศาสดาตรัสถามว่า "ได้ยินว่า อย่างนั้นหรือ ? พราหมณ์"
เมื่อพราหมณ์นั้นทูลว่า " อย่างนั้น พระโคคมผู้เจริญ " จึงตรัสว่า
"พราหมณ์ การแลดูสาวกของเราด้วยจิตอันเลื่อมใสเพียงครู่เดียว หรือ
การถวายอาหารวัตถุเพียงภิกษาทัพพีเดียว มีผลมากแม้กว่าทานที่ท่านเมื่อ
ให้อย่างนั้น ให้แล้วตั้ง 100 ปี เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม
จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-
5. มาเส มาเส สหสฺเสน โย ยเชถ สตํ สมํ
เอญฺจ ภาวิตตฺตานํ มุหุตฺตมปิ ปูชเย
สา เย ปูชนา เสยฮ ย ยญฺเจ วสฺสสตํ หุตํ.
"ผู้ใด พึงบูชาด้วยทรัพย์พันหนึ่งทุก ๆ เดือน
สิ้น 100 ปี, ส่วนการบูชานั้นนั่นแล ของผู้ที่พึง
บูชาท่านผู้มีตนอบรนแล้วคนเดียวแม้ตรู่หนึ่ง ประ-
เสริฐกว่าการบูชาของผู้นั้น, การบูชา สิ้น 100 ปี
จะประเสริฐอะไรเล่า ?"

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สหสฺเสน ความว่า ด้วยการบริจาค
ทรัพย์พันหนึ่ง.
บาทพระคาถาว่า โย ยเชถ สตํ สมํ ความว่า ผู้ใดเมื่อบริจาค
ทรัพย์พันหนึ่งทุก ๆ เดือน พึงให้ทานแก่โลกิยมหาชน สิ้น 100 ปี.
บาทพระคาถาว่า เอกญฺจ ภาวิตฺตานํ ความว่า ส่วนผู้ใดพึง
บูชาท่านผู้มีในอบรมแล้ว ด้วยอำนาจแห่งคุณผู้เดียว โดยที่สุดเบื้องต่ำเป็น
พระโสดาบัน โดยที่สุดเบื้องสูงเป็นพระขีณาสพ ผู้มาถึงแทบประตูเรือน
ด้วยอำนาจถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง ด้วยอำนาจถวายอาหาร พอยังอัตภาพ
ให้เป็นไปได้ หรือด้วยเพียงถวายผ้าเนื้อหยาบ, บูชาของผู้นั้นนั่นแล
ประเสริฐ คือล้ำเลิศ ได้แก่ สูงสุดกว่าความบูชาอันบุคคลนอกนี้บูชา
แล้ว สิ้น 100 ปี.
ในเวลาจบเทศนา พราหมณ์นั้นบรรลุโสดาปัตติผลแล้ว, ชนแม้
เหล่าอื่นเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ผู้เป็นลุงของพระสารีบุตรเถระ จบ.