เมนู

บทเดียว ซึ่งบุคคลฟังแล้ว สงบระงับได้ประเสริฐ
กว่า."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า เอกํ คาถาปทํ ความว่า แม้
คาถา ๆ เดียวเห็นปานนี้ว่า " ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ ฯลฯ
เหมือนคนตายแล้ว" ประเสริฐกว่า. บทที่เหลือพึงทราบตามนัยก่อน
นั่นแล.
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระทารุจีริยเถระ จบ.

3. เรื่องพระกุณฑลเกสีเถรี [83]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนางกุณฑลเกสี
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "โย จ คาถา สตํ ภาเส" เป็นต้น.

ธิดาเศรษฐีได้โจรเป็นสามี


ดังได้สดับมา ธิดาเศรษฐีคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ มีอายุย่าง 16 ปี
มีรูปสวย น่าดู. ก็นารีทั้งหลายผู้ตั้งอยู่ในวัยนั้น ย่อมมีความฝักใฝ่ใน
บุรุษ โลเลในบุรุษ. ครั้งนั้น มารดาบิดา ให้ธิดานั้นอยู่ในห้องอัน
มีสิริ บนพื้นชั้นบนแห่งปราสาท 7 ชั้น, ได้กระทำทาสีคนเดียวเท่านั้น
ให้เป็นผู้บำรุงบำเรอนาง.
ครั้งนั้น พวกราชบุรุษจับกุลบุตรคนหนึ่ง ผู้กระทำโจรกรรม
ได้มัดมือไพล่หลัง โบยด้วยหวายครั้งละ 4 เส้น ๆ แล้วนำไปสู่ที่สำหรับ
ฆ่า. ธิดาเศรษฐีได้ยินเสียงของมหาชน คิดว่า "นี่อะไรกันหนอแล ?
ยืนแลดูอยู่บนพื้นปราสาท เห็นโจรนั้นแล้วก็มีจิตปฏิพัทธ์ปรารถนาอยู่
ห้ามอาหารแล้วนอนบนเตียง." ลำดับนั้น มารดาถามนางว่า " แม่ นี้
อย่างไรกัน ?"
ธิดาเศรษฐี. ถ้าดิฉันจักได้บุรุษคนที่ถูกเขาจับนำไปว่า 'เป็นโจร'
นั่นไซร้, ดิฉันจักเป็นอยู่; ถ้าไม่ได้, ชีวิตดิฉันก็จะไม่มี, ดิฉันจักตาย
ในที่นี้นี่แหละ.