เมนู

ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์, ขอพระสุคตจง
ทรงแสดงธรรม อันจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุข แก่ข้าพระองค์สิ้นกาล
นานเถิด."

ทารุจีริยะบรรลุพระอรหัตแต่ยังเป็นคฤหัสถ์


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสห้ามเขาว่า "พาหิยะ ไม่ใช่กาลก่อน,
เราเป็นผู้เข้าไปสู่ระหว่างถนนเพื่อบิณฑบาต." พาหิยะ ฟังพระพุทธ-
ดำรัสนั้นแล้วกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ผู้ท่องเที่ยวไปในสงสาร ไม่เคย
ได้อาหารคือคำข้าวเลยหรือ ? ข้าพระองค์ไม่รู้อันตรายแห่งชีวิตของพระ-
องค์ หรือของข้าพระองค์, ขอพระองค์จงทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์
เถิด." แม้ครั้งที่ 2 พระศาสดาก็ตรัสห้ามแล้วเหมือนกัน. ได้ยินว่า
พระศาสดานั้นได้ทรงปริวิตกอย่างนั้นว่า "จำเดิมแต่กาลที่พาหิยะนี้เห็นเรา
แล้ว สรีระทั้งสิ้น (ของเขา) อันปีติท่วมทับไม่มีระหว่าง, ผู้มีปีติกำลัง
แม้ฟังธรรมแล้วจักไม่อาจแทงตลอด (ของจริง) ได้, เขาจงตั้งอยู่
ในอุเบกขาคือความมัธยัสถ์ก่อน, แม้ความกระวนกระวายของเขาจะมีกำลัง
เพราะเป็นผู้เดินมาสิ้นทาง 120 โยชน์โดยคืนเดียวเท่านั้น, แม้ความ
กระวนกระวายนั้นจงระงับเสียก่อน," เพราะฉะนั้น พระศาสดาจึงตรัส
ห้ามถึง 2 ครั้ง ถูกเขาอ้อนวอนแม้ครั้งที่ 3 ประทับยืนในระหว่างถนน
นั่นเอง ทรงแสดงธรรมโดยนัยเป็นต้นว่า "พาหิยะ เพราะเหตุนั้น เธอ
พึงศึกษาในศาสนานี้ อย่างนั้นว่า "เมื่อรูปเราได้เห็นแล้ว รูปจักเป็นเพียง
เราเห็น." พาหิยะนั้นกำลังฟังธรรมของพระศาสดานั้นแล ยังอาสวะ
ทั้งหมดให้สิ้นไป บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา 4 แล้ว, ก็แล

ขณะนั้นนั่นเองเขาทูลขอบรรพชากะพระผู้มีพระภาคเจ้า, ถูกตรัสถามว่า
" บาตรจีวรของเธอครบแล้วหรือ ?" ทูลตอบว่า "ยังไม่ครบ." ทีนั้น
พระศาสดาตรัสกะเขาว่า "ถ้าอย่างนั้น เธอจงแสวงหาบาตรจีวร" แล้ว
ก็เสด็จหลีกไป.
ได้ยินว่า พาหิยะนั้นกระทำสมณธรรมสิ้น 2 หมื่นปี คิดว่า
"ธรรมดาภิกษุได้ปัจจัยด้วยตนแล้ว ไม่เหลียวแลผู้อื่น บริโภคเองเท่านั้น
จึงควร" ดังนี้แล้ว ไม่ได้กระทำการสงเคราะห์ด้วยบาตรหรือจีวร แม้
แก่ภิกษุรูปหนึ่ง. เพราะฉะนั้น พระศาสดาทรงทราบว่า "บาตรจีวรอัน
สำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์ จักไม่เกิดขึ้น" จึงไม่ได้ประทานบรรพชา ด้วยความ
เป็นเอหิภิกษุแก่เขา. แม้พาหิยะนั้นแสวงหาบาตรจีวรอยู่นั่นแล ยักษิณี
คนหนึ่งมาด้วยรูปแม่โคนม ขวิดถูกตรงขาอ่อนข้างซ้าย ให้ถึงความสิ้น
ชีวิต.
พระศาสดาเสด็จเที่ยวบิณฑบาต ทรงกระทำภัตกิจเสร็จแล้วเสด็จ
ออกไปพร้อมกับภิกษุเป็นอันมาก ทรงเห็นสรีระของพาหิยะถูกทิ้งในที่
กองขยะ จึงทรงบัญชาภิกษุทั้งหลายว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
จงยืนใกล้ประตูเรือนแห่งหนึ่ง ให้นำเตียงมาแล้ว นำสรีระนี้ออกจากเมือง
เผาแล้วกระทำสถูปไว้." ภิกษุทั้งหลายกระทำดังนั้นแล้ว; ก็แลครั้นกระทำ
แล้วไปยังวิหารเข้าเฝ้าพระศาสดา ทูลบอกกิจที่ตนกระทำแล้ว ทูลถาม
อภิสัมปรายภพของพาหิยะนั้น.

ทารุจีระเลิศในทางขิปปาภิญญา


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกความที่พาหิยะนั้นปรินิพพาน