เมนู

4. เรื่องนางปติปูชิกา [36]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภหญิงชื่อ
ปติปูชิกา ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปุปฺผานิ เหว" เป็นต้น.
เรื่องตั้งขึ้นในดาวดึงสเทวโลก.

เทพธิดาจุติแล้วเกิดในกรุงสาวัตถี


ได้ยินว่า เทพบุตรนามว่ามาลาภารี ในดาวดึงสเทวโลกนั้น มี
นางอัปสรพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว เข้าไปสู่สวน. เทพธิดา 500 ขึ้นสู่
ต้นไม้ ยังดอกไม้ให้ตกอยู่. เทพธิดา 500 เก็บเอาดอกไม้ที่เทพธิดา
เหล่านั้นให้ตกแล้ว ประดับเทพบุตร. บรรดาเทพธิดาเหล่านั้น เทพธิดา
องค์หนึ่ง จุติบนกิ่งไม้นั่นแล. สรีระดับไป ดุจเปลวประทีป นางถือ
ปฏิสนธิในเรือนแห่งตระกูลหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี ในเวลาที่นางเกิดแล้ว
เป็นหญิงระลึกชาติได้ ระลึกอยู่ว่า "เราเป็นภริยาของมาลาภารีเทพบุตร"
ถึงความเจริญ กระทำการบูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ปรารถนา
การเกิดเฉพาะในสำนักสามี. นางแม้ไปสู่ตระกูลอื่น. ในเวลามีอายุ 16 ปี
ถวายสลากภัต ปักขิกภัต และวัสสาวาสิกภัตเป็นต้นแล้ว ย่อมกล่าวว่า
"ส่วนแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยเพื่อประโยชน์แก่อันบังเกิดในสำนักสามี
ของเรา."

จุติจากมนุษยโลกแล้วไปเกิดในสวรรค์


ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายทราบว่า "นางนี้ ลุกขึ้นเสร็จสรรพแล้ว
ย่อมปรารถนาสามีเท่านั้น" จึงขนานนามของนางว่า "ปติปูชิกา."
แม้นางปติปูชิกานั้น ย่อมปฏิบัติโรงฉัน เข้าไปตั้งน้ำฉัน ปูอาสนะ
เป็นนิตย์. มนุษย์แม้พวกอื่น ใคร่เพื่อจะถวายสลากภัตเป็นต้น นำมา
มอบให้ด้วยคำว่า "แม่ ท่านจงจัดแจงภัตเหล่านี้ แก่ภิกษุสงฆ์." แม้
นางเดินไปเดินมาอยู่โดยทำนองนั้น ได้กุศลธรรม 56 ทุกย่างเท้า. นาง
ตั้งครรภ์แล้ว. นางก็คลอดบุตร โดยกาลอันล่วงไป 10 เดือน. ในกาล
ที่บุตรนั้นเดินได้ นางได้บุตรแม้อื่น ๆ รวม 4 คน. ในวันหนึ่ง นาง
ถวายทาน ทำการบูชา ฟังธรรม รักษาสิกขาบท ในเวลาเป็นที่สุดแห่ง
วัน ก็ทำกาละด้วยโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งบังเกิดขึ้นในขณะนั้น แล้ว
บังเกิดในสำนักสามีเติมของตน.

อายุของมนุษย์ประมาณ 100 ปี


ฝ่ายนางเทพธิดานอกนี้ กำลังประดับอยู่นั่งเอง ตลอดกาลเท่านี้.
เทพบุตรเห็นนางนั้น กล่าวว่า "เธอหายหน้าไปตั้งแต่เช้า, เธอไป
ไหนมา ?"
เทพธิดา. ดิฉันจุติค่ะ นาย.
เทพบุตร. เธอพูดอะไร ?
เทพธิดา. ข้อนั้นเป็นอย่างนี้ นาย.
เทพบุตร. เธอเกิดแล้วในที่ไหน.
เทพธิดา. เกิดในเรือนแห่งตระกูล ในกรุงสาวัตถี.
1. อภิ. สํ. 34/16.