เมนู

มารดาบิดาให้เรวตะแต่งงาน


แม้มารดาของพระสารีบุตรเถระนั้น ประสงค์จะผูกเรวตกุมารผู้มี
อายุ 7 ขวบเท่านั้น ด้วยเครื่องผูกคือเรือน จึงหมั้นเด็กหญิงในตระกูล
ที่มีชาติเสมอกัน กำหนดวันแล้ว ประดับตกแต่งกุมารแล้ว ได้พาไป
สู่เรือนของญาติเด็กหญิง พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมาก. ลำดับนั้น เมื่อ
พวกญาติของเขาทั้งสองผู้ทำการมงคลประชุมกันแล้ว, พวกญาติให้เขา
ทั้งสองจุ่มมือลงในถาดน้ำแล้ว กล่าวมงคลทั้งหลาย หวังความเจริญ
แก่เด็กหญิง จึงกล่าวว่า " ขอเจ้าจงเห็นธรรมอันยายของเจ้าเห็นแล้ว,
เจ้าจงเป็นอยู่สิ้นกาลนาน เหมือนยาย นะแม่" เรวตกุมาร คิดว่า
"อะไรหนอแล ? ชื่อว่าธรรมอันยายนี้เห็นแล้ว" จึงถามว่า " คนไหน ?
เป็นยายของหญิง."
ลำดับนั้น พวกญาติบอกกะเขาว่า "พ่อ คนนี้ มีอายุ 120 ปี
มีฟันหลุด ผมหงอก หนังหดเหี่ยว ตัวตกกระ หลังโกงดุจกลอนเรือน
เจ้าไม่เห็นหรือ ? นั่นเป็นยายของเด็กหญิงนั้น."
เรวตะ. ก็แม้หญิงนี้ จักเป็นอย่างนั้นหรือ ?
พวกญาติ. ถ้าเขาจักเป็นอยู่ไซร้, ก็จักเป็นอย่างนั้น พ่อ.

เรวตะคิดหาอุบายออกบวช


เรวตะนั้น คิดว่า "ชื่อว่าสรีระ แม้เห็นปานนี้ จักถึงประการ
อันแปลกนี้ เพราะชรา, อุปติสสะพี่ชายของเรา จักเห็นเหตุนี้แล้ว. ควร
ที่เราจะหนีไปบวชเสียในวันนี้แหละ." ทีนั้น พวกญาติอุ้มเขาขึ้นสู่ยาน
อันเดียวกันกับเด็กหญิงพาหลีกไปแล้ว . เขาไปได้หน่อยหนึ่งอ้างการถ่าย

อุจจาระ พูดว่า "ท่านทั้งหลาย จงหยุดยานก่อน, ฉันลงไปแล้วจัก
มา" ดังนี้แล้ว ลงจากยานท่าให้ชักช้าหน่อยหนึ่ง ที่พุ่มไม้พุ่มหนึ่งแล้ว
จึงได้ไป. เขาไปได้หน่อยหนึ่งแล้ว ลงไปด้วยการอ้างนั้นนั่นแลแม้อีก
ขึ้นแล้วก็ได้ทำอย่างนั้นเหมือนกันอีก.
ลำดับนั้น พวกญาติของเขากำหนดว่า "เรวตะนี้ หมั่นไปแท้ๆ "
จึงมิได้ทำการรักษาอย่างเข้มแข็ง. เขาไปได้หน่อยหนึ่งก็ลงไปด้วยการอ้าง
นั้นนั่นแลแม้อีกแล้ว พูดว่า "พวกท่าน จงขับไปข้างหน้า, ฉันจัก
ค่อย ๆ เดินมาข้างหลัง" จึงลงไปแล้ว ได้บ่ายหน้าตรงไปยังพุ่มไม้.

เรวตะได้บรรพชา


แม้พวกญาติของเขา ได้ขับยานไปด้วยสำคัญว่า เรวตะจักมา
ข้างหลัง." ฝ่ายเรวตะนั้นหนีไปจากที่นั้นแล้ว, ไปยังสำนักของภิกษุ
ประมาณ 30 รูป ซึ่งอยู่ในประเทศแห่งหนึ่ง ไหว้แล้วเรียนว่า "ท่าน
ขอรับ ขอท่านทั้งหลายจงให้กระผมบวช."
พวกภิกษุ. ผู้มีอายุ เธอประดับด้วยเครื่องอลังการพร้อมสรรพ
พวกข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เธอเป็นพระราชโอรสหรือเป็นบุตรของอำมาตย์
จักให้เธอบวชอย่างไรได้."
เรวตะ. พวกท่านไม่รู้จักกระผมหรือ ? ขอรับ.
พวกภิกษุ. ไม่รู้ ผู้มีอายุ.
เรวตะ. กระผมเป็นน้องชายของอุปติสสะ.
พวกภิกษุ. ชื่อว่าอุปติสสะนั่น คือใคร ?
เรวตะ. ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เรียกพี่ชายของกระผมว่า สารี-