เมนู

พระขีณาสพไม่โกรธไม่ประทุษร้ายใคร


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะเธอว่า "ภิกษุ ธรรมดาพระขีณาสพ
ทั้งหลาย ไม่โกรธ ไม่ประทุษร้าย ต่อใครๆ, เป็นผู้มีอินทรีย์สงบแล้ว
เป็นผู้มีใจสงบแล้วเทียว" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
7. สนฺติ ตสฺส มนํ โหติ สนฺตา วาจา จ กมฺม จ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส อุปสนฺตสฺส ตาทิโน.
"ใจของท่านผู้พ้นวิเศษแล้ว เพราะรู้ตอบ ผู้
สงบระงับ คงที่ เป็นใจสงบแล้ว วาจาก็สงบแล้ว
การงานก็สงบ."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สนฺตํ ความว่า ใจของสมณะผู้
ขีณาสพนั้น ชื่อว่า สงบแล้วแท้ คือ ระงับ ได้แก่ ดับ เพราะความ
ไม่มีแห่งมโนทุจริตทั้งหลายมีอภิชฌาเป็นต้น, อนึ่งวาจา ชื่อว่า สงบแล้ว
เพราะความไม่มีแห่งวจีทุจริตทั้งหลายมีมุสาวาทเป็นต้น, และกายกรรม
ชื่อว่า สงบแล้วนั่นเทียว เพราะความไม่มีแห่งกายทุจริตมีปาณาติบาต
เป็นต้น.
บาทพระคาถาว่า สมฺมทญฺญา วิมุติตสฺส ความว่า ผู้พ้นวิเศษ
แล้ว ด้วยวิมุตติ 5 เพราะรู้โดยนัยโดยเหตุ.
บทว่า อุปสนฺตสฺส ความว่า ชื่อว่าผู้สงบระงับแล้ว เพราะความ
ระงับแห่งกิเลสมีราคะเป็นต้น ณ ภายใน.

บทว่า ตาทิโน คือ ผู้สมบูรณ์ด้วยคุณเห็นปานนั้น.
ในเวลาจบเทศนา พระติสสเถระชาวกรุงโกสัมพีบรรลุพระอรหัต
พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย, ธรรมเทศนาได้เป็นประโยชน์ แม้เก่
มหาชนที่เหลือ ดังนี้แล.
เรื่องพระติสสเถระชาวกรุงโกสัมพี จบ.

8. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [78]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตร-
เถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อสฺสทฺโธ" เป็นต้น.

สัทธินทรีย์เป็นต้นมีอมตะเป็นที่สุด


ความพิสดารว่า ภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ประมาณ 30 รูป วัน
หนึ่งไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายบังคมนั่งแล้ว. พระศาสดาทรงทราบ
อุปนิสัยแห่งพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ของภิกษุเหล่านั้น
แล้ว ตรัสเรียกพระสารีบุตรเถระมา ตรัสถามปัญหาปรารภอินทรีย์ 5
อย่างนั้นว่า "สารีบุตร เธอเชื่อหรือ ?, อินทรีย์คือศรัทธาอันบุคคล
เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งถึงอมตะ มีอมตะเป็นที่สุด." พระเถระ
ทูลแก้ปัญหานั้นอย่างนั้นว่า "พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ย่อมไม่ถึงด้วยความ
เชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในอินทรีย์ 5 นี้แล; (ว่า) อินทรีย์ คือ
ศรัทธา ฯลฯ มีอมตะเป็นที่สุด, ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อินทรีย์ คือ
ศรัทธานั่น อันชนเหล่าใดไม่รู้แล้ว ไม่สดับแล้ว ไม่เห็นแล้ว ไม่ทราบ
แล้ว ไม่ทำให้แจ้งแล้ว ไม่ถูกต้องแล้ว ด้วยปัญญา, ชนเหล่านั้นพึงถึง
ด้วยความเชื่อต่อชนเหล่าอื่นในอินทรีย์ 5 นั้น (ว่า) อินทรีย์ คือ
ศรัทธา ฯลฯ มีอมตะเป็นที่สุด."
ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว ยังกถาให้ตั้งขึ้นว่า "พระสารีบุตรเถระ
แก้แล้ว ด้วยการถือผิดทีเดียว, แม้ในวันนี้ พระเถระไม่เชื่อแล้วต่อ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเทียว."