เมนู

อุปัฏฐาก. ท่านผู้เจริญ ถ้ากัปปิยการกไม่มี บุตรของกระผมจัก
เป็นสามเณรในสำนักของพระผู้เป็นเจ้า.
พระเถระรับแล้ว. อุบาสกนำบุตรของตนผู้มีอายุ 7 ขวบไปสู่
สำนักของพระเถระแล้ว ได้ถวายว่า "ขอท่านจงให้เด็กนี้บวชเถิด."
ครั้งนั้น พระเถระชุบผมของเด็กนั้นให้ชุ่มแล้ว ให้ตจปัญจกกัมมัฏฐาน
ให้บวชแล้ว. ในเวลาปลงผมเสร็จนั่นเอง กุมารนั้นก็บรรลุพระอรหัต
พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา. พระเถระครั้นให้กุมารนั้นบวชแล้วอยู่ในที่นั้นสิ้น
กึ่งเดือนแล้วคิดว่า "จักเฝ้าพระศาสดา" จึงให้สามเณรถือห่อภัณฑะ
เดินไปสู่วิหารแห่งหนึ่งในระหว่างทาง. สามเณรถือเสนาสนะจัดแจงเพื่อ
พระอุปัชฌาย์แล้ว. เมื่อสามเณรนั้นจัดแจงเสนาสนะอยู่เทียว ก็หมดเวลา
แล้ว. เพราะเหตุนั้น สามเณรจึงไม่อาจจัดแจงเสนาสนะเพื่อตนได้.
ครั้งนั้น พระเถระถามสามเณรนั้น ผู้มาในเวลาบำรุงนั่งอยู่แล้วว่า
"สามเณร เจ้าจัดแจงที่อยู่ของตนแล้วหรือ."
สามเณร. กระผมไม่ได้โอกาสเพื่อจัดแจง ขอรับ.

ตาสามเณรแตกเพราะอาจารย์


พระเถระกล่าวว่า "ถ้ากระนั้น จงอยู่ในที่อยู่ของฉันเถิด, การ
อยู่ในที่อาคันตุกะลำบาก" พาสามเณรนั้นแลเข้าไปสู่เสนาสนะแล้ว. ก็
พระเถระเป็นปุถุชน พอนอนเท่านั้น ก็หยั่งลงสู่ความหลับ. สามเณร
คิดว่า "วันนี้เป็นวันที่ 3 ของเรา ผู้อยู่ในเสนาสนะเดียวกันกับพระ-
อุปัชฌาย์; ถ้าเราจักนอนหลับ, พระเถระพึงต้องสหไสยาบัติ, เราจะ
นั่งอย่างเดียว ยังกาลให้น้อมล่วงไป." สามเณรนั่งคู้บัลลังก์ใกล้เตียงของ

พระอุปัชฌาย์เทียว ยังราตรีให้น้อมล่วงไปแล้ว. พระเถระลุกขึ้นในเวลา
ใกล้รุ่ง คิดว่า "ควรให้สามเณรออก" จึงจับพัดที่วางอยู่ข้างเตียง เอา
ปลายใบพัดตีเสื่อลำแพนของสามเณรแล้ว ยกพัดขึ้นเบื้องบนกล่าวว่า
"สามเณรจงออกไปข้างนอก" ใบพัดกระทบตา. ตาแตกแล้ว ทันใด
นั้นนั่นเอง สามเณรนั้น กล่าวว่า " อะไร ? ขอรับ" เมื่อพระเถระ
กล่าวว่า "เจ้าจงลุกขึ้น ออกไปข้างนอก." ก็ไม่กล่าวว่า " ตาของผม
แตกแล้ว ขอรับ" ปิด (ตา) ด้วยมือข้างหนึ่งออกไปแล้ว. ก็แลใน
เวลาทำวัตร สามเณรไม่นั่งนิ่งด้วยคิดว่า "ตา ของเราแตกแล้ว."
กุมตาด้วยมือข้างหนึ่ง ถือกำไม้กวาดด้วยมือข้างหนึ่ง กวาดเวจกุฎีและที่ล้าง
หน้าและตั้งน้ำล้างหน้าไว้แล้วกวาดบริเวณ. สามเณรนั้นเมื่อถวายไม้ชำระ
ฟันแก่พระอุปัชฌาย์ ได้ถวายด้วยมือเดียว.

อาจารย์ขอโทษศิษย์


ครั้งนั้น พระอุปัชฌาย์กล่าวกะสามเณรนั้นว่า "สามเณรนี้ไม่ได้
สำเหนียกหนอ, จึงได้เพื่อถวายไม้ชำระฟันแก่อาจารย์และอุปัชฌาย์ด้วย
มือเดียว."
สามเณร. ผมทราบ ขอรับ ว่า 'นั่นไม่เป็นวัตร,' แต่มือข้าง
หนึ่งของผม ไม่ว่าง
พระเถระ. อะไร ? สามเณร.
สามเณรนั้นบอกความเป็นไปนั้นแล้วจำเดิมแต่ต้น. พระเถระพอ
ฟังแล้วมีใจสลด กล่าวว่า " โอ กรรมหนักอันเราทำแล้ว" กล่าวว่า
"จงอดโทษแก่ฉัน สัตบุรุษ, ฉันไม่รู้ข้อนั้น, ขอจงเป็นที่พึ่ง" ดังนี้