เมนู

ขีณาสพทั้งหลายแล้ว. เมื่อพระเถระกล่าวคุณของตนอยู่นั่นแล, ความ
เร่าร้อนเกิดขึ้นในสรีระทั้งสิ้นของภิกษุผู้กล่าวตู่แล้ว. ทันใดนั้นแล ภิกษุ
นั้นหมอบลงใกล้พระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคเจ้า ประกาศโทษ
ในเพราะความกล่าวตู่ ด้วยคำอันไม่จริงแสดงโทษล่วงเกินแล้ว.

จิตของพระสารีบุตรเหมือนแผ่นดิน


พระศาสดาตรัสเรียกพระเถระมาแล้ว ตรัสว่า " สารีบุตร เธอจง
อดโทษต่อโมฆบุรุษนี้เสีย, ตลอดเวลาที่ศีรษะของเขา จักไม่แตกโดย 7
เสี่ยง." พระเถระนั่งกระโหย่งประคองอัญชลีกราบทูลว่า "พระเจ้าข้า
ข้าพระองก์ยอมอดโทษต่อผู้มีอายุนั้น, และขอผู้มีอายุนั้นจงอดโทษต่อ
ข้าพระองค์. ถ้าว่าโทษของข้าพระองค์มีอยู่." ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่า
" ผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงดูความที่พระเถระมีคุณไม่ต่ำทราม,
พระเถระไม่กระทำความโกรธหรือความประทุษร้าย แม้มีประมาณน้อย
ในเบื้องบนของภิกษุผู้กล่าวตูด้วยมุสาวาทชื่อเห็นปานนี้ ตัวเองเทียวนั่ง
กระโหย่งประคองอัญชลีให้ภิกษุนั้นอดโทษ."
พระศาสดาทรงสดับกถานั้นแล้วตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวก
เธอพูดอะไรกัน ? เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "กถาชื่อนี้พระเจ้าข้า"
ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ใคร ๆ ไม่อาจให้ความโกรธหรือความประทุษ-
ร้ายเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้เช่นกับสารีบุตรได้. ภิกษุทั้งหลาย จิตของสารีบุตร
เช่นกับด้วยแผ่นดินใหญ่ เช่นกับเสาเขื่อนและเช่นกับท้วงน้ำใส" เมื่อ
จะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-