เมนู

ความที่แห่งญาติและอุปัฏฐากของตนมีมาก." ลำดับนั้น พระศาสดา
ตรัสถามภิกษุเหล่านั้นว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพูดอะไรกัน ?"
เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "พูดเรื่องชื่อนี้ พระเจ้าข้า" จึงตรัสถาม
ว่า "ภิกษุทั้งหลาย ก็พวกเธอสำคัญว่า 'ของนี้อันอนุรุทธะให้นำมา
แล้วหรือ ?" ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "อย่างนั้น พระเจ้าข้า" พระ-
ศาสดาตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย อนุรุทธะผู้บุตรของเรา ไม่กล่าวถ้อยคำ
เห็นปานนั้น, แท้จริง พระขีณาสพทั้งหลาย ย่อมไม่กล่าวกถาปฏิสังยุต
ด้วยปัจจัย ก็บิณฑบาตนี้ เกิดแล้วด้วยอานุภาพของเทวดา" เมื่อจะ
ทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
4. ยสฺสาสวา ปริกฺขีณา อาหาเร จ อนิสฺสิโต
สุญฺญโต อนิมิตฺโต จ วิโมกฺโข ยสฺส โคจโร
อากาเสว สกุนฺตานํ ปทนฺตสฺส ทุรนฺนยํ.
"อาสวะทั้งหลาย ของบุคคลใด สิ้นแล้ว,
บุคคลใด ไม่อาศัยแล้ว ในอาหาร, และสุญญต-
วิโมกข์ อนิมิตตวิโมกข์ เห็นโคจรของบุลคลใด,
ร่องรอยของบุคคลนั้น ๆ รู้ได้ยาก เหมือนรอยของ
นกทั้งหลายในอากาศฉะนั้น."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยสฺสาสวา ความว่า อาสวะ 4
ของบุคคลใด สิ้นแล้ว. บาทพระคาถาว่า อาหาเร จ อนิสฺสิโต ความว่า
อันตัณหานิสัยและทิฏฐินิสัย ไม่อาศัยแล้ว ในอาหาร.

บาทพระคาถาว่า ปทนฺตสฺส ทุรนฺวยํ ความว่า อันบุคคลไม่อาจ
เพื่อจะรู้รอยของนกทั้งหลายซึ่งไปในอากาศว่า "นกทั้งหลายเหยียบด้วย
เท้าในที่นี้บินไปแล้ว, กระแทกที่นี้ด้วยอกบินไปแล้ว, ที่นี้ด้วยศีรษะ,
ที่นี้ด้วยปีกทั้งสองฉันใด, อันใคร ๆ ก็ไม่อาจเพื่อบัญญัติ ซึ่งรอยของ
ภิกษุผู้เห็นปานนี้ โดยนัยเป็นต้นว่า 'ภิกษุนี้ ไปแล้วโดยทางนรก
หรือไปแล้วโดยทางดิรัจฉานกำเนิด" ฉันนั้นเหมือนกัน .
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระอนุรุทธเถระ จบ.

5. เรื่องพระมหากัจจายนเถระ [75]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในบุพพาราม ทรงปรารภพระมหากัจจา-
ยนเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยสฺสินฺทฺริยานิ" เป็นต้น.

พระเถระยกย่องการฟังธรรม


ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง พระศาสดาอันพระสาวกหมู่ใหญ่
แวดล้อมแล้ว ประทับนั่ง ณ ภายใต้ปราสาทของมิคารมารดา ในวัน
มหาปวารณา. ในสมัยนั้น พระมหากัจจายนเถระอยู่ในอวันตีชนบท
ก็ท่านนั้นมาแล้วแม้แต่ที่ไกล ย่อมยกย่องการฟังธรรมนั่นเทียว. เพราะ-
ฉะนั้น พระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลายเมื่อจะนั่ง จึงนั่งเว้นอาสนะไว้เพื่อ
พระมหากัจจายนเถระ. ท้าวสักกเทวราชเสด็จมาจากเทวโลกทั้งสองพร้อม
ด้วยเทพบริษัท ทรงบูชาพระศาสดา ด้วยของหอมและระเบียบดอกไม้
อันเป็นทิพย์เป็นต้นแล้ว ประทับยืนอยู่ มิได้เห็นพระมหากัจจายนเถระ
จึงทรงรำพึงว่า " เพราะเหตุอะไรหนอแล ? พระผู้เป็นเจ้าของเราจึงไม่
ปรากฏ. ก็ถ้าพระผู้เป็นเจ้าพึงมา, การมาของท่านนั้น เป็นการดีแล."
พระเถระมาแล้วในขณะนั้นนั่นเอง แสดงตนซึ่งนั่งแล้วบนอาสนะของตน
นั่นแล. ท้าวสักกะทอดพระเนตรเห็นพระเถระแล้ว ทรงจับข้อเท้าทั้งสอง
อย่างมั่นแล้ว ตรัสว่า " พระผู้เป็นเจ้าของเรามาแล้วหนอ. เราหวังการ
มาของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ทีเดียว " ดังนี้แล้ว ก็ทรงนวดเท้าทั้งสองของพระ-