เมนู

พระศาสดา ตรัสแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า "ภิกษุทั้งหลาย ในที่สุด
แห่งแสนกัลป์แต่กัลป์นี้ พระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ทรง
อุบัติขึ้นแล้วในโลก" ดังนี้แล้ว ตรัสความประพฤติในกาลก่อนของ
พระเถระทั้งหมด ตั้งต้นแต่ท่านตั้งความปรารถนาไว้ในกาลแห่งพระ-
พุทธเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ. บุรพจริตนั้น พระธรรมสังคาหกา-
จารย์ให้พิสดารแล้ว ในพระบาลีอันแสดงประวัติของพระเถระนั่นแล.

ตรัสเปรียบพระเถระด้วยพระยาหงส์


ก็พระศาสดาครั้นตรัสบุรพจริตของพระเถระนี้ให้พิสดารแล้ว จึง
ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย เพราะอย่างนี้แล เราจึงกล่าวข้อปฏิบัติอันเปรียบ
ด้วยพระจันทร์ และข้อปฏิบัติแห่งวงศ์ของพระอริยะ อ้างเอากัสสปบุตร
ของเราให้เป็นต้น. ชื่อว่าความข้องในปัจจัยก็ดี ตระกูลก็ดี วิหารก็ดี
บริเวณก็ดี ย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา. บุตรของเราไม่ข้องในอะไร ๆ เลย
เหมือนพระยาหงส์ ร่อนลงในเปือกตม เที่ยวไปในเปือกตมนั้นแล้ว ก็บิน
ไปฉะนั้น" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรมจึงตรัสพระ-
คาถานี้ว่า:-
2. อุยฺยุญฺชนฺติ สตีมนฺโต น นิเกเต รมนฺติ เต
หํสาว ปลฺลลํ หิตฺวา โอกโมกํ ชหนฺติ เต.
"ท่านผู้มีสติย่อมออก. ท่านย่อมไม่ยินดีใน
ที่อยู่; ท่านละความห่วงใยเสีย เหมือนฝูงหงส์
ละเปือกตมไปฉะนั้น."