เมนู

ท่านจงไปไล่นกที่บินจอแจอยู่ในป่าใกล้วิหารให้หนีไป แล้วยึดอารักขา
ไว้โดยรอบ," ตรัสกะจันทเทพบุตรว่า "ท่านจงฉุดรั้งมณฑลพระจันทร์
ไว้. ตรัสกะสุริยเทพบุตรว่า "ท่านจงฉุดรั้งมณฑลพระอาทิตย์ไว้"
ดังนี้แล้ว พระองค์เอง ได้เสด็จไปประทับยืนยึดอารักขาอยู่ที่สายยู, ใน
วิหารแม้เสียงแห่งใบไม้แก่ก็มิได้มี. จิตของสามเณรได้มีอารมณ์เป็นหนึ่ง
แล้ว . เธอพิจารณาอัตภาพแล้ว บรรลุผล 3 อย่างในระหว่างภัตนั้น
เอง.
ฝ่ายพระเถระ คิดว่า "สามเณรนั่งแล้วในวิหาร, เราอาจจะได้
โภชนะที่สมประสงค์แก่เธอ ในสกุลชื่อโน้น" ดังนี้แล้ว จึงได้ไปสู่
ตระกูลอุปัฏฐาก ซึ่งประกอบด้วยความรักและเคารพตระกูลหนึ่ง. ก็ใน
วันนั้น มนุษย์ทั้งหลายในตระกูลนั้น ได้ปลาตะเพียนหลายตัวนั่งดูการมา
แห่งพระเถระอยู่เทียว. พวกเขาเห็นพระเถระกำลังมาจึงกล่าวว่า " ท่าน
ขอรับ ท่านมาที่นี้ ทำกรรมเจริญแล้ว " แล้วนิมนต์ให้เข้าไปข้างใน
ถวายข้าวยาคูและของควรเคี้ยวเป็นต้นแล้ว ได้ถวายบิณฑบาตด้วยรสปลา
ตะเพียน. พระเถระแสดงอาการจะนำไป. พวกมนุษย์เรียนว่า " นิมนต์
ฉันเถิดขอรับ ใต้เท้าจักได้แม้ภัตสำหรับจะนำไป" ในเวลาเสร็จภัตกิจ
ของพระเถระ ได้เอาโภชนะประกอบด้วยรสปลาตะเพียน ใส่เต็มบาตร
ถวายแล้ว. พระเถระคิดว่า " สามเณรของเราหิวแล้ว " จึงได้รีบไป

พระศาสดาทรงทำอารักขาสามเณร


แม้พระศาสดา ในวันนั้น เสวยแต่เช้าทีเดียว เสด็จไปวิหารทรง
ใคร่ครวญว่า " บัณฑิตสามเณรให้บาตรและจีวรแก่พระอุปัชฌาย์แล้ว

กลับไป ด้วยตั้งใจว่า 'จักทำสมณธรรม;' กิจแห่งบรรพชิตของเธอ
จักสำเร็จหรือไม่ ?" ทรงทราบว่า สามเณรบรรลุผล 3 อย่างแล้ว
จึงทรงพิจารณาว่า "อุปนิสัยแห่งพระอรหัตจะมีหรือไม่มี ?" ทรงเห็น
ว่า "มี" แล้วทรงใคร่ครวญว่า "เธอจักอาจเพื่อบรรลุพระอรหัตก่อน
ภัตทีเดียว หรือจักไม่อาจ ?" ได้ทรงทราบว่า " จักอาจ." ลำดับนั้น
พระองค์ได้มีความปริวิตกอย่างนี้ว่า "สารีบุตร ถือภัตเพื่อสามเณร
รีบมา. เธอจะพึงทำอันตรายแก่สามเณรนั้นก็ได้, เราจักนั่งถือเอาอารักขา
ที่ซุ้มประตู, ทีนั้นจักถามปัญหา 4 ข้อกะเธอ, เมื่อเธอแก้อยู่, สาม-
เณรจักบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา" ดังนี้แล้ว จึงเสด็จไปจาก
วิหารนั้น ประทับยืนอยู่ที่ซุ้มประตู ตรัสถามปัญหา 4 ข้อกะพระเถระ
ผู้มาถึงแล้ว. พระเถระแก้ปัญหาที่พระศาสดาตรัสถามแล้ว.
ในปัญหานั้น มีปุจฉาวิสัชนาดังต่อไปนี้ :-
ได้ยินว่า พระศาสดาตรัสกะพระเถระนั้นว่า " สารีบุตร เธอ
ได้อะไรมา ?
พระเถระ. อาหาร พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ชื่อว่าอาหาร ย่อมนำอะไรมา ? สารีบุตร.
พระเถระ. เวทนา พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เวทนา ย่อมนำอะไรมา ? สารีบุตร.
พระเถระ. รูป พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ก็รูป ย่อมนำอะไรมา ? สารีบุตร.
พระเถระ. ผัสสะ พระเจ้าข้า.

คำอธิบายในปัญหา


ในปัญหานั้น มีอธิบายดังนี้ :-
จริงอยู่ อาหารอันคนหิวบริโภคแล้ว กำจัดความหิวของเขาแล้ว
นำสุขเวทนามาให้. เมื่อสุขเวทนาเกิดขึ้นแก่ผู้มีความสุขเพราะการบริโภค
อาหาร วรรณสมบัติย่อมมีในสรีระ, เวทนาชื่อว่าย่อมนำรูปมา ด้วย
อาการอย่างนั้น. ก็ผู้มีสุขเกิดสุขโสมนัส ด้วยอำนาจรูปที่เกิดจากอาหาร
นอนอยู่ก็ตาม นั่งอยู่ก็ตาม ด้วยคิดว่า "บัดนี้ อัสสาทะ เกิดแก่เรา
แล้ว" ย่อมได้สุขสัมผัส.

สามเณรบรรลุพระอรหัตผล


เมื่อพระเถระแก้ปัญหาทั้ง 4 ข้อเหล่านี้ อย่างนั้นแล้ว สามเณร
ก็ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา. ฝ่ายพระศาสดา ตรัสกะพระ-
เถระว่า "ไปเถิด สารีบุตร, จงให้ภัตแก่สามเณรของเธอ." พระ-
เถระไปเคาะประตูแล้ว. สามเณรออกมารับบาตรจากมือพระเถระ วางไว้
ณ ส่วนข้างหนึ่งแล้ว จึงเอาพัดก้านตาลพัดพระเถระ. ลำดับนั้น พระเถระ
กล่าวกะเธอว่า " สามเณร จงทำภัตกิจเสียเถิด."
สามเณร. ก็ใต้เท้าเล่า ขอรับ.
พระเถระ. เราทำภัตกิจเสร็จแล้ว, เธอจงทำเถิด.
เด็กอายุ 7 ขวบ บวชแล้ว ในวันที่ 8 บรรลุพระอรหัตเป็น
เหมือนดอกปทุมที่แย้มแล้ว ในขณะนั้น ได้นั่งพิจารณาที่เป็นที่ใส่ภัต
ทำภัตกิจแล้ว. ในขณะที่เธอล้างบาตรเก็บไว้ จันทเทพบุตรปล่อยมณฑล
พระจันทร์. สุริยเทพบุตรปล่อยมณฑลพระอาทิตย์ ท้าวมหาราชทั้ง 4