เมนู

ท่อนไม้ที่มีจิต ทำเป็นล้อเป็นต้นได้. เพราะเหตุไร คนผู้มีจิตจึงจักไม่
อาจทำจิตของตนให้เป็นไปในอำนาจแล้วบำเพ็ญสมณธรรมเล่า ? เธอ
เห็นเหตุเหล่านี้แล้ว จึงเรียนว่า " ใต้เท้าขอรับ ถ้าใต้เท้าควรถือบาตร
และจีวรของใต้เท้าได้; กระผมพึงกลับ" พระเถระมิได้เกิดความคิด
เลยว่า "เจ้าสามเณรเล็กนี้บวชได้หยก ๆ ตามเรามา กล่าวอย่างนั้นได้"
กลับกล่าว่า " จงเอามา สามเณร" แล้วได้รับบาตรและจีวรของ
ตนไว้.
ฝ่ายสามเณรไหว้พระอุปัชฌาย์แล้ว เมื่อจะกลับ จึงเรียนว่า "ใต้เท้า
เมื่อจะนำอาหารมาเพื่อกระผม พึงนำมาด้วยรสปลาตะเพียนเถอะขอรับ."
พระเถระ. เราจักได้ ในที่ไหนเล่า ? เธอ.
สามเณรเรียนว่า "ถ้าไม่ได้ด้วยบุญของใต้เท้า ก็จักได้ด้วยบุญของ
กระผม ขอรับ." พระเถระวิตกว่า "แม้อันตรายจะพึงมีแก่สามเณรเล็ก
ผู้นั่งข้างนอก' จึงให้ลูกดาลไปแล้วบอกว่า "ควรเปิดประตูห้องอยู่ของ
ฉันแล้ว เข้าไปนั่งเสียภายใน." เธอได้กระทำอย่างนั้นแล้ว นั่งหยั่งความ
รู้ลงในกรัชกายของตน พิจารณาอัตภาพอยู่.

อาสนะท้าวสักกะร้อนเพราะคุณของสามเณร


ครั้งนั้น ที่ประทับนั่งของท้าวสักกะ แสดงอาการร้อนด้วยเดช
แห่งคุณ ของสามเณรนั้น. ท้าวเธอใคร่ครวญว่า "จักมีเหตุอะไรกัน
หนอ ?" ทรงดำริได้ว่า "บัณฑิตสามเณรถวายบาตรและจีวรแก่พระ-
อุปัชฌาย์แล้วกลับ. ด้วยตั้งใจว่า 'จักทำสมณธรรม' แม้เราก็ควรไป
ในที่นั้น" ดังนี้แล้ว, ตรัสเรียกท้าวมหาราชทั้ง 4 มา ตรัสว่า " พวก

ท่านจงไปไล่นกที่บินจอแจอยู่ในป่าใกล้วิหารให้หนีไป แล้วยึดอารักขา
ไว้โดยรอบ," ตรัสกะจันทเทพบุตรว่า "ท่านจงฉุดรั้งมณฑลพระจันทร์
ไว้. ตรัสกะสุริยเทพบุตรว่า "ท่านจงฉุดรั้งมณฑลพระอาทิตย์ไว้"
ดังนี้แล้ว พระองค์เอง ได้เสด็จไปประทับยืนยึดอารักขาอยู่ที่สายยู, ใน
วิหารแม้เสียงแห่งใบไม้แก่ก็มิได้มี. จิตของสามเณรได้มีอารมณ์เป็นหนึ่ง
แล้ว . เธอพิจารณาอัตภาพแล้ว บรรลุผล 3 อย่างในระหว่างภัตนั้น
เอง.
ฝ่ายพระเถระ คิดว่า "สามเณรนั่งแล้วในวิหาร, เราอาจจะได้
โภชนะที่สมประสงค์แก่เธอ ในสกุลชื่อโน้น" ดังนี้แล้ว จึงได้ไปสู่
ตระกูลอุปัฏฐาก ซึ่งประกอบด้วยความรักและเคารพตระกูลหนึ่ง. ก็ใน
วันนั้น มนุษย์ทั้งหลายในตระกูลนั้น ได้ปลาตะเพียนหลายตัวนั่งดูการมา
แห่งพระเถระอยู่เทียว. พวกเขาเห็นพระเถระกำลังมาจึงกล่าวว่า " ท่าน
ขอรับ ท่านมาที่นี้ ทำกรรมเจริญแล้ว " แล้วนิมนต์ให้เข้าไปข้างใน
ถวายข้าวยาคูและของควรเคี้ยวเป็นต้นแล้ว ได้ถวายบิณฑบาตด้วยรสปลา
ตะเพียน. พระเถระแสดงอาการจะนำไป. พวกมนุษย์เรียนว่า " นิมนต์
ฉันเถิดขอรับ ใต้เท้าจักได้แม้ภัตสำหรับจะนำไป" ในเวลาเสร็จภัตกิจ
ของพระเถระ ได้เอาโภชนะประกอบด้วยรสปลาตะเพียน ใส่เต็มบาตร
ถวายแล้ว. พระเถระคิดว่า " สามเณรของเราหิวแล้ว " จึงได้รีบไป

พระศาสดาทรงทำอารักขาสามเณร


แม้พระศาสดา ในวันนั้น เสวยแต่เช้าทีเดียว เสด็จไปวิหารทรง
ใคร่ครวญว่า " บัณฑิตสามเณรให้บาตรและจีวรแก่พระอุปัชฌาย์แล้ว