เมนู

หรืออิริยาบถของเธอ ยังไม่น่าเลื่อมใสก่อน; อีกอย่างหนึ่ง วัตรที่พึงทำ
ในวิหารของพระเถระ ยังมีอยู่; อนึ่ง พระเถระ, เมื่อภิกษุสงฆ์เข้าไป
ภายในบ้านแล้ว. เที่ยวไปทั่ววิหาร กวาดที่ ๆ ยังไม่กวาด ตั้งน้ำฉันน้ำ
ใช้ไว้ในภาชนะที่ว่างเปล่า เก็บเตียงตั่งเป็นต้น ที่ยังเก็บไว้ไม่เรียบร้อย
แล้ว จึงเข้าไปบ้านภายหลัง; อีกอย่างหนึ่ง ท่านคิดเห็นว่า " พวก
เดียรถีย์เข้าไปยังวิหารว่างแล้ว อย่าได้เพื่อจะพูดว่า ' ดูเถิด ที่นั่ง
ของพวกสาวกพระสมณโคดม' ดังนี้แล้ว จึงได้จัดแจงวิหารทั้งสิ้น เข้า
ไปบ้านภายหลัง; เพราะฉะนั้น แม้ในวันนั้น พระเถระให้สามเณรนั่น
เอง ถือบาตรจีวร เข้าไปบ้านสายหน่อย.

สามเณรเข้าไปบิณฑบาตกับพระเถระ


สามเณรเมื่อไปกับพระอุปัชฌาย์ เห็นเหมืองในระหว่างทางจึง
เรียนถามว่า " นี้ชื่ออะไร ? ขอรับ.
พระเถระ. ชื่อว่าเหมือง สามเณร.
สามเณร. เขาทำอะไร ? ด้วยเหมืองนี้.
พระเถระ. เขาไขน้ำจากที่นี้ ๆ แล้ว ทำการงานเกี่ยวด้วยข้าว
กล้าของตน.
สามเณร. ก็น้ำมีจิตไหม ? ขอรับ
พระเถระ. ไม่มี เธอ.
สามเณร. ชนทั้งหลายย่อมไขน้ำที่ไม่มีจิตเห็นปานนี้สู่ที่ ๆ ตน
ปรารถนาแล้ว ๆ ได้หรือ ? ขอรับ.
พระเถระ. ได้ เธอ.

สามเณรนั้น คิดว่า " ถ้าคนทั้งหลายไขน้ำซึ่งไม่มีจิตแม้เห็นปานนี้
ที่ ๆ คนปรารถนาแล้ว ๆ ทำการงานได้; เหตุไฉน ? คนมีจิตแท้ ๆ
จักไม่อาจเพื่อทำจิตของตนให้เป็นไปในอำนาจแล้ว บำเพ็ญสมณธรรม."
เธอเดินต่อไปเห็นพวกช่างศรกำลังเอาลูกศรลนไฟแล้ว เล็งด้วยหางตา
ดัดให้ตรง จึงเรียนถามว่า " พวกนี้ ชื่อพวกอะไรกัน ? ขอรับ."
พระเถระ. ชื่อช่างศร เธอ.
สามเณร. ก็พวกเขา ทำอะไรกัน ?
พระเถระ. เขาลนที่ไฟ แล้วดัดลูกศรให้ตรง.
สามเณร. ลูกศรนั่น มีจิตไหม ? ขอรับ.
พระเถระ. ไม่มีจิต เธอ.
เธอคิดว่า " ถ้าคนทั้งหลายถือเอาลูกศรอันไม่มีจิตลนไฟแล้วดัด
ให้ตรงได้; เพราะเหตุไร ? แม้คนมีจิต จึงจักไม่อาจเพื่อทำจิตของตน
ให้เป็นไปในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมณธรรมเล่า ?"
ครั้นสามเณรเดินต่อไป เห็นชนถากไม้ทำเครื่องทัพสัมภาระมีกำ
กงและดุมเป็นต้น จึงเรียนถามว่า "พวกนี้ ชื่อพวกอะไร ? ขอรับ."
พระเถระ. ชื่อช่างถาก เธอ.
สามเณร. ก็พวกเขา ทำอะไรกัน ?
พระเถระ. เขาถือเอาไม้แล้วทำล้อแห่งยานน้อยเป็นต้น เธอ.
สามเณร. ก็ไม้เหล่านั่น มีจิตไหม ? ขอรับ.
พระเถระ. ไม่มีจิต เธอ.

สามเณรลากลับไปทำสมณธรรม


ทีนั้น เธอได้มีความตริตรองอย่างนั้นว่า "ถ้าคนทั้งหลายถือเอา