เมนู

ความสงเคราะห์แก่ข้าพระองค์เถิด; ถ้าท่านมีบุญ. ท่านจักได้แน่" เขา
ได้ไปสู่วิหารแล้ว.

พระศาสดาประทานบาตรแก่มหาทุคตะ


ลำดับนั้น พระเจ้าแผ่นดินและยุพราชเป็นต้น ตรัสกะเขาว่า
"มหาทุคตะ ไม่ใช่เวลาภัตก่อน, เจ้ามาทำไม?" เพราะเคยเห็นเขา
โดยความเป็นคนกินเดนในวิหาร ในวันอื่น ๆ. มหาทุคตะกราบทูลว่า
" ข้าพระองค์ทราบอยู่ว่า 'ไม่ใช่เวลาภัตก่อน' แต่ข้าพระองค์มาก็เพื่อ
ถวายบังคมพระศาสดา" ดังนี้แล้ว จึงซบศีรษะลงที่ธรณีพระคันธกุฎี
ถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ กราบทูลว่า " ผู้ที่ยากจนกว่า
ข้าพระองค์ในพระนครนี้ไม่มี พระเจ้าข้า, ขอทรงเป็นที่พึ่งแก่ข้าพระองค์
เถิด, ขอทรงทำความสงเคราะห์แก่ข้าพระองค์เถิด." พระศาสดาทรง
เปิดพระทวารพระคันธกุฎี ทรงนำบาตรมาประทานในมือของเขา. เขา
ได้เป็นเหมือนบรรลุจักรพรรดิสิริ. พระเจ้าแผ่นดินและยุพราชเป็นต้น
ต่างทรงดูแลดูพระพักตร์กันและกัน.
แท้จริง ใครๆ ชื่อว่าสามารถเพื่อจะรับบาตรที่พระศาสดาประทาน
แก่มหาทุคตะ ด้วยอำนาจความเป็นใหญ่ หามีไม่. เป็นแต่กล่าวอย่างนี้
ว่า "เพื่อนมหาทุคตะ ท่านจงให้บาตรของพระศาสดาแก่พวกเรา,
พวกเราจักให้ทรัพย์มีประมาณเท่านี้ คือ พันหนึ่งหรือแสนหนึ่ง แก่ท่าน.
ท่านเป็นคนเข็ญใจ จงเอาทรัพย์เถิด, ประโยชน์อะไรของท่านด้วยบาตร
เล่า ?" มหาทุคตะ ตอบว่า "ข้าพเจ้าจักไม่ให้ใคร, ข้าพเจ้าไม่มี
ความต้องการด้วยทรัพย์, จักให้พระศาสดาเท่านั้นเสวย." ชนทั้งหลาย

ที่เหลือ อ้อนวอนเขา ไม่ได้บาตรแล้วจึงกลับไป.
ฝ่ายพระเจ้าแผ่นดิน ทรงดำริว่า " มหาทุคตะ แม้ถูกเขาเล้าโลม
ล่อด้วยทรัพย์ ก็ไม่ให้บาตรของพระศาสดา, ก็ใคร ๆ ไม่อาจจะรับบาตร
ที่พระศาสดาประทานแล้วด้วยพระองค์เองได้, อันไทยธรรมของมหา
ทุคตะนี้ จักมีประมาณเท่าไร ? ในเวลามหาทุคตะนี้ถวายไทยธรรม
เสร็จ เราจักนำพระศาสดาไปยังเรือน ถวายอาหารที่เขาจัดไว้สำหรับเรา"
ดังนี้แล้ว จึงได้ตามเสด็จไปพร้อมด้วยพระศาสดาทีเดียว.

พระศาสดาเสด็จไปเรือนของมหาทุคตะ


ฝ่ายท้าวสักกเทวราช จัดอาหารภัตมีข้าวต้มข้าวสวยและผักเป็นต้น
ปูอาสนะที่สมควรเป็นที่ประทับแห่งพระศาสดาแล้วประทับนั่ง. มหา
ทุคตะนำพระศาสดาไปแล้ว กราบทูลว่า "จงเสด็จเข้าไปเถิด
พระเจ้าข้า." ก็เรือนที่อยู่ของเขาต่ำ, ผู้ที่ไม่ก้ม ไม่อาจเข้าไปได้, ก็แต่
ธรรมดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อเสด็จเข้าสู่เรือน ไม่ต้องก้มเสด็จเข้าไป,
เพราะว่า ในเวลาเสด็จเข้าสู่เรือน แผ่นดินใหญ่ย่อมยุบลงภายใต้. หรือ
เรือนสูงขึ้น. นี่เป็นผลแห่งทานที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้นถวายไว้ดีแล้ว.
ในเวลาที่พระองค์เสด็จออกไปแล้ว ทุกสิ่งเป็นปกติเหมือนเดิมอีก; เพราะ-
ฉะนั้น พระศาสดา ทั้งประทับยืนอยู่นั่นเอง เสด็จเข้าสู่เรือนแล้ว
ประทับนั่งบนอาสนะที่ท้าวสักกะปูไว้แล้ว. เมื่อพระศาสดาประทับนั่งแล้ว
พระราชารับสั่งว่า " เพื่อนมหาทุคตะ ท่านไม่ให้บาตรของพระศาสดา
แก่พวกเรา แม้ผู้อ้อนวอนอยู่, พวกเราจะดูก่อน, สักการะที่ท่านจัด
ถวายพระศาสดาเป็นเช่นไร ?" ลำดับนั้น ท้าวสักกะเปิดข้าวยาคูและภัต