เมนู

วัยแล้ว ได้เป็นพระราชาพระนามว่า พระเจ้ามหากัปปินะ, ชนที่เหลือ
วัยเกิดในตระกูลอำมาตย์; ภรรยาของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้าเกิดในราชตระกูล
ในสาคลนคร ในมัททรัฐ, พระนางได้มีพระสรีระเช่นกับสีดอกอังกาบ
นั่นเทียว, พระญาติขนานพระนามแก่พระนางว่า " อโนชา" นั่นแล.
พระนางทรงถึงความเจริญวัยแล้ว ก็ไปสู่พระราชมณเฑียรของพระเจ้า
กัปปินะ ได้เป็นพระเทวีมีพระนามว่าอโนชาแล้ว, แม้หญิงทั้งหลายที่เหลือ
เกิดในตระกูลอำมาตย์ทั้งหลายถึงความเจริญวัยแล้ว ก็ได้ไปสู่เรือนแห่ง
บุตรอำมาตย์เหล่านั้นเหมือนกัน. ชนเหล่านั้นแม้ทุกคน ได้เสวยสมบัติ
เช่นกับสมบัติของพระราชา. ในกาลใด พระราชาทรงประดับ เครื่องอลัง-
การทั้งปวง ทรงช้างเที่ยวไป; ในกาลนั้น แม้ชนเหล่านั้นก็เที่ยวไปเหมือน
อย่างนั้น. เมื่อพระราชาเสด็จเที่ยวไปด้วยม้าหรือด้วยรถ, แม้ชนเหล่านั้น
ก็เที่ยวไปเหมือนอย่างนั้น. ชนเหล่านั้นเสวยสมบัติร่วมกัน ด้วยอานุภาพ
แห่งบุตรที่ทำร่วมกัน ด้วยประการฉะนี้.
ก็ม้าของพระราชามีอยู่ 5 ตัว คือ " ม้าชื่อพละ 1 พลวาหนะ 1
ปุปผะ 1 ปุปผวาหนะ 1 สุปัตตะ 1. บรรดาม้าเหล่านั้น ม้าชื่อ
สุปัตตะ พระราชาทรงเอง. ม้า 4 ตัว นอกนี้ ได้พระราชทานแก่พวกม้า
ใช้ เพื่อประโยชน์นำข่าวสารมา.

พระราชาให้สืบข้าวพระรัตนตรัย


พระราชาให้ม้าใช้เหล่านั้น บริโภคแต่เช้าตรู่แล้ว ทรงส่งไปด้วย
พระดำรัสว่า "พวกท่านไปเถิด, เที่ยวไป 2 หรือ 3 โยชน์แล้วทราบ
ว่าพระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์อุบัติแล้ว จงนำข่าวที่ให้เกิดสุข