เมนู

พวกหญิงให้คนละ 250. ชนเหล่านั้นรวบรวมทรัพย์นั้นแล้วเริ่ม ( สร้าง )
ชื่อบริเวณใหญ่ เพื่อประโยชน์เป็นที่ประทับของพระศาสดาซึ่งมีเรือนยอด
พันหลังเป็นบริวาร. เมื่อทรัพย์ไม่เพียงพอ เพราะความที่นวกรรมเป็น
งานใหญ่, จึงได้ออกอีกคนละกึ่ง จากทรัพย์ที่ตนให้แล้วในก่อน. เมื่อ
บริเวณเสร็จแล้ว. ชนเหล่านั้นเมื่อจะทำการฉลองวิหาร จึงถวายมหาทาน
แก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขตลอด 7 วัน แล้วจัดจีวรเพื่อภิกษุ
สองหมื่นรูป.

ภรรยาของกุฎุมพีถวายดอกอังกาบ


ฝ่ายภรรยาของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้า ไม่ทำให้มีส่วนเสมอด้วยชน
ทั้งหมด ตั้งอยู่ด้วยปัญญาของตน คิดว่า "เราจักบูชาพระศาสดาทำให้
ยิ่ง (กว่าเขา)" จึงถือเอาผอบดอกอังกาบ กับผ้าสาฎกมีสีดังดอกอังกาบ
ราคาพันหนึ่ง ในเวลาอนุโมทนา บูชาพระศาสดาด้วยดอกอังกาบแล้ว
วางผ้าสาฎกนั้นไว้ แทบบาทมูลของพระศาสดาตั้งความปรารถนาว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอสรีระของหม่อมฉันจงมีสีดุจดอกอังกาบนี้แหละ
ในที่หม่อมฉันเกิดแล้ว ๆ, และขอหม่อมฉันจงมีนามว่า อโนชา นั้นแล."
พระศาสดาได้ทรงทำอนุโมทนาว่า "จงสำเร็จอย่างนั้นเถิด."

กุฎุมพีภรรยาและบริวารเกิดในราชตระกูล


ชนเหล่านั้นแม้ทั้งหมด ดำรงอยู่จนตลอดอายุแล้ว จุติจากอัตภาพ
นั้นแล้วก็เกิดในเทวโลก ในพุทธุปบาทกาลนี้ จุติจากเทวโลกแล้ว.
กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้าเกิดในราชตระกูล ในกุกกุฏวดีนคร ถึงความเจริญ

วัยแล้ว ได้เป็นพระราชาพระนามว่า พระเจ้ามหากัปปินะ, ชนที่เหลือ
วัยเกิดในตระกูลอำมาตย์; ภรรยาของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้าเกิดในราชตระกูล
ในสาคลนคร ในมัททรัฐ, พระนางได้มีพระสรีระเช่นกับสีดอกอังกาบ
นั่นเทียว, พระญาติขนานพระนามแก่พระนางว่า " อโนชา" นั่นแล.
พระนางทรงถึงความเจริญวัยแล้ว ก็ไปสู่พระราชมณเฑียรของพระเจ้า
กัปปินะ ได้เป็นพระเทวีมีพระนามว่าอโนชาแล้ว, แม้หญิงทั้งหลายที่เหลือ
เกิดในตระกูลอำมาตย์ทั้งหลายถึงความเจริญวัยแล้ว ก็ได้ไปสู่เรือนแห่ง
บุตรอำมาตย์เหล่านั้นเหมือนกัน. ชนเหล่านั้นแม้ทุกคน ได้เสวยสมบัติ
เช่นกับสมบัติของพระราชา. ในกาลใด พระราชาทรงประดับ เครื่องอลัง-
การทั้งปวง ทรงช้างเที่ยวไป; ในกาลนั้น แม้ชนเหล่านั้นก็เที่ยวไปเหมือน
อย่างนั้น. เมื่อพระราชาเสด็จเที่ยวไปด้วยม้าหรือด้วยรถ, แม้ชนเหล่านั้น
ก็เที่ยวไปเหมือนอย่างนั้น. ชนเหล่านั้นเสวยสมบัติร่วมกัน ด้วยอานุภาพ
แห่งบุตรที่ทำร่วมกัน ด้วยประการฉะนี้.
ก็ม้าของพระราชามีอยู่ 5 ตัว คือ " ม้าชื่อพละ 1 พลวาหนะ 1
ปุปผะ 1 ปุปผวาหนะ 1 สุปัตตะ 1. บรรดาม้าเหล่านั้น ม้าชื่อ
สุปัตตะ พระราชาทรงเอง. ม้า 4 ตัว นอกนี้ ได้พระราชทานแก่พวกม้า
ใช้ เพื่อประโยชน์นำข่าวสารมา.

พระราชาให้สืบข้าวพระรัตนตรัย


พระราชาให้ม้าใช้เหล่านั้น บริโภคแต่เช้าตรู่แล้ว ทรงส่งไปด้วย
พระดำรัสว่า "พวกท่านไปเถิด, เที่ยวไป 2 หรือ 3 โยชน์แล้วทราบ
ว่าพระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์อุบัติแล้ว จงนำข่าวที่ให้เกิดสุข