เมนู

นิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายนั่ง อังคาสด้วยโภชนะอันประณีต ใน
เวลาเสร็จภัตกิจ จึงพาหญิงทั้งหมดในบ้านนั้น พร้อมกับหญิงเหล่านั้น
นมัสการพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายแล้ว รับเอาปฏิญญาเพื่อประโยชน์แก่
การอยู่ตลอดไตรมาส แล้วป่าวร้องชาวบ้านอีกว่า "แม่และพ่อทั้งหลาย
บุรุษคนหนึ่ง ๆ แต่ตระกูลหนึ่ง ๆ จงถือเอาเครื่องมือมีมีดเป็นต้น เข้าไป
สู่ป่า นำเอาทัพสัมภาระมาสร้างที่เป็นที่อยู่ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย."
พวกชาวบ้านตั้งอยู่ในถ้อยคำของนางแล้ว คนหนึ่ง ๆ ทำที่แห่ง
หนึ่ง ๆ แล้วให้สร้างศาลามุงด้วยใบไม้พันหลัง พร้อมกับที่พักกลางคืน
และกลางวัน แล้วอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เข้าจำพรรษาในบรรณ-
ศาลาของตน ๆ ด้วยตั้งใจว่า " เราจักอุปัฏฐากโดยเคารพ. เราจักอุปัฏฐาก
โดยเคารพ."
ในเวลาออกพรรษาแล้ว นางชักชวนว่า "ท่านทั้งหลายาจง
ตระเตรียมผ้าเพื่อจีวร ( ถวาย ) แด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายผู้อยู่
จำพรรษาในบรรณศาลาของตน ๆ เถิด," แล้วให้ถวายจีวรมีค่าพันหนึ่ง
แด่พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ๆ. พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายออก
พรรษาแล้ว ทำอนุโมทนาแล้วก็หลีกไป.

อานิสงส์ทานนำให้เกิดในดาวดึงส์


แม้พวกชาวบ้าน ครั้นทำบุญนี้แล้ว จุติจากอัตภาพนั้นแล้วเกิด
ในภพดาวดึงส์ ได้มีความว่าคณะเทวบุตรแล้ว. เทวบุตรเหล่านั้น เสวย
ทิพยสมบัติในภพดาวดึงส์นั้น ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระ-

นามว่ากัสสปะ (มา) เกิดในเรือนของกุฎุมพี ในกรุงพาราณสี. หัวหน้า
ช่างหูกได้เป็นบุตรของกุฎุมพีผู้ใหญ่. ฝ่ายภรรยาของเขา ก็ได้เป็นธิดา
ของกุฎุมพีผู้ใหญ่เหมือนกัน. หญิงเหล่านั้นแม้ทั้งหมด ถึงควานเจริญวัย
แล้ว เมื่อจะไปสู่ตระกูลสามี ก็ได้ไปสู่เรือนของบุรุษเหล่านั้นนั่นแล.

กุฎุมพีถวายมหาทาน


ต่อมาวันหนึ่ง เขาป่าวร้องการฟังธรรมในวิหาร กุฎุมพีเหล่านั้น
แม้ทั้งหมด ได้ยินว่า "พระศาสดาจะทรงแสดงธรรม ปรึกษากันว่า
" เราทั้งหลายจักฟังธรรม" แล้วได้ไปสู่วิหารกับภรรยา. ในขณะที่ชน
เหล่านั้น เข้าไปสู่ท่ามกลางวิหาร ฝนได้ตั้งเค้าแล้ว. บรรพชิตทั้งหลาย
มีสามเณรเป็นต้น ผู้เป็นกุลุปกะหรือเป็นญาติของชนเหล่าใดมีอยู่; ชน
เหล่านั้นก็เข้าไปสู่บริเวณของบรรพชิตเหล่านั้น. แต่กุฎุมพีเหล่านั้นไม่
อาจจะเข้าไปในที่ไหน ๆ ได้ เพราะความที่กุลุปกะหรือญาติเห็นปานนั้น
ไม่มี ได้ยืนอยู่ท่ามกลางวิหารนั่นเอง.
ลำดับนั้น กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้า จึงกล่าวกะกุฎุมพีผู้บริวารเหล่า
นั้นว่า "ท่านทั้งหลาย จงดูอาการอันน่าเกลียดของพวกเรา, ธรรมดา
กุลบุตรทั้งหลาย ละอายด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ สมควรแล้ว."
บริวาร. นาย พวกเราจะทำอย่างไรเล่า ?
กุฎุมพี. พวกเราถึงอาการอันน่าเกลียดนี้ เพราะไม่มีสถานที่ซึ่งมี
คนคุ้นเคยกัน, เราทั้งหมดรวมทรัพย์กัน สร้างบริเวณเถอะ.
บริวาร. ดีละ นาย.
คนผู้หัวหน้า ได้ให้ทรัพย์พันหนึ่ง, ชนที่เหลือให้คนละ 500,