เมนู

จาริกแล้ว, กล่าวสอน พร่ำสอนท่านเนือง ๆ ว่า " สิ่งนี้ คุณควรทำ,
สิ่งนี้ คุณไม่ควรทำ " เป็นต้น. ท่านได้เป็นผู้ว่าง่าย มีปกติรับเอา
โอวาทโดยเคารพแล้ว, เพราะฉะนั้น เมื่อท่านปฏิบัติตามคำที่พระเถระ
พร่ำสอนอยู่ โดย 2-3 วันเท่านั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัตแล้ว. พระเถระ
พาท่านไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายบังคมนั่งแล้ว.
ลำดับนั้น พระศาสดาทรงทำปฏิสันถารกะท่านแล้ว ตรัสว่า
" สารีบุตร อันเตวาสิกของเธอเป็นผู้ว่าง่ายแลหรือ ?"
พระเถระ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า. เธอเป็นผู้ว่าง่ายเหลือเกิน
เมื่อโทษไร ๆ ที่ข้าพระองค์แม้กล่าวสอนอยู่. ไม่เคยโกรธเลย.
พระศาสดา. สารีบุตร เธอเมื่อได้สัทธิวิหาริกเห็นปานนี้ จะพึง
รับได้ประมาณเท่าไร ?
พระเถระ. ข้าพระองค์พึงรับได้แม้มากทีเดียว พระเจ้าข้า.

พวกภิกษุสรรเสริญพระสารีบุตรและพระราธะ


ภายหลังวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า "ได้ยินว่า
พระสารีบุตรเถระเป็นผู้กตัญญูกตเวที ระลึกถึงอุปการะสักว่าภิกษาทัพพี
หนึ่ง ให้พราหมณ์ตกยากบวชแล้ว; แม้พระราธเถระก็เป็นผู้อดทนต่อ
โอวาท ย่อมได้ท่านผู้ควรแก่การให้โอวาทเหมือนกันแล้ว."

พระศาสดาทรงแสดงอลีนจิตตชาดก


พระศาสดาทรงสดับกถาของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุ
ทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น, ถึงในกาลก่อน สารีบุตรเป็นผู้

กตัญญูกตเวทีเหมือนกัน" ดังนี้แล้ว เพื่อจะประกาศความนั้น จึงตรัส
อลีนจิตตชาดก1 ในทุกนิบาตนี้ ให้พิสดารว่า:-
" เสนาหมู่ใหญ่อาศัยเจ้าอลีนจิตตกุมาร ร่าเริง
ทั่วกันแล้ว ได้ให้ช้างจับพระเจ้าโกศลทั้งเป็น ผู้ไม่
พอพระทัยด้วยราชสมบัติ, ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยนิสัย
อย่างนี้ เป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เจริญ
กุศลธรรมอยู่, เพื่อบรรลุธรรมเป็นแดนเกษมจาก
โยคะ พึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งสังโยชน์
ทั้งปวงโดยลำดับ."

ได้ยินว่า ช้างตัวหนึ่งเที่ยวไปตัวเดียว รู้อุปการะที่พวกช่างไม้
ทำแล้วแก่ตน โดยภาวะคือทำเท้าให้หายโรค แล้วให้ลูกช้างตัวขาวปลอด
ในครั้งนั้น ได้เป็นพระสารีบุตรเถระแล้ว .

ภิกษุควรเป็นผู้ว่าง่ายอย่างพระราธะ


พระศาสดาครั้นตรัสชาดกปรารภพระเถระอย่างนั้นแล้ว ทรง
ปรารภพระราธเถระ ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาภิกษุควรเป็น
ผู้ว่าง่ายเหมือนราธะ, แม้อาจารย์ชี้โทษกล่าวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ
อนึ่ง ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวาท เหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น
ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
1. ข. ชา. 27/ข้อ 161. อรรถกถา. 3/23.