เมนู

ความเป็นพระราชาในพระนครพาราณสี (อันกว้างใหญ่ไพศาล) ถึง
12 โยชน์ ทรงพระนามว่า " กัฏฐวาหนราช" แล้วตรัสกัฏฐหาริย-
ชาดก1.
พระราชาทรงสดับธรรมกถา ทรงยินดีว่า "ทราบว่า โคตรฝ่าย
บิดาเท่านั้นเป็นสำคัญ " จึงรับสั่งให้พระราชทานเครื่องบริหารเช่นเคยนั่น
แล แก่มารดาและบุตร.

พันธุละพาภรรยาผู้แพ้ท้องอาบน้ำ


ภรรยาแม้ของพันธุลเสนาบดีแล ชื่อมัลลิกา ซึ่งเป็นพระธิดาของ
เจ้ามัลละ ในกุสินารานคร ไม่คลอดบุตรสิ้นกาลนาน.
ต่อมา พันธุลเสนาบดีส่งนางไปว่า "เจ้าจงไปสู่เรือนแห่งตระกูล
ของตนเสียเถิด."
นางคิดว่า "เราจักเฝ้าพระศาสดาแล้วจึงไป" จึงเข้าไปยังพระ-
เชตวัน ยืนถวายบังคนพระตถาคต อันพระตถาคตตรัสถามว่า "เธอ
จะไป ณ ที่ไหน ?" กราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สามีส่งหม่อมฉัน
ไปสู่เรือนแห่งตระกูล."
พระศาสดา. เพราะเหตุไร ?
นาง. นัยว่า หม่อมฉันเป็นหมัน ไม่มีบุตร.
พระศาสดา. ถ้าอย่างนั้น. กิจคือการไปไม่มี, จงกลับเสียเถิด.
นางดีใจ ถวายบังคมพระศาสดา กลับไปสู่นิเวศน์ เมื่อสามีถามว่า
" กลับมาทำไม ?" ตอบว่า "พระทศพลให้ฉันกลับ." พันธุละคิดว่า
1. ขุ. ชา. เอก. 27/3. อรรถกถา. 1/204. แต่ในที่นั้น เป็น กัฏฐหาริชาดก.