เมนู

เราควรเฝ้าพระศาสดาโดยแท้." คฤหบดีนั้น ให้เทียมเกวียน 500 เล่ม
เต็มด้วยวัตถุมีงา ข้าวสาร เนยใส น้ำอ้อย และผ้านุ่งห่มเป็นต้นแล้ว
ให้บอกแก่หมู่ภิกษุว่า "พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายใด ประสงค์จะเฝ้าพระ-
ศาสดา. พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายนั้นจงไป, จักไม่ลำบากด้วยบิณฑบาต
เห็นต้น" ดังนี้แล้ว ก็ให้แจ้งทั้งแก่หมู่ภิกษุณี ทั้งแก่พวกอุบาสก
ทั้งแก่พวกอุบาสิกา. ภิกษุประมาณ 500 รูป ภิกษุณีประมาณ 500 รูป
อุบาสกประมาน 500 อุบาสิกาประมาณ 500 ออกไปกับคฤหบดีนั้น.
เขาตระเตรียมแล้วโดยประการที่จะไม่มีความบกพร่องสักน้อยหนึ่ง ด้วยข้าว
ยาคูและภัตเป็นต้น ในหนทาง 30 โยชน์ เพื่อชนสามพันคน คือ
เพื่อภิกษุเป็นต้นเหล่านั้นนั่นแล และเพื่อบริษัทของตน. ฝ่ายพวกเทวดา
ทราบความที่อุบาสกนั้นออกไปแล้ว ปลูกค่ายที่พักไว้ทุก ๆ โยชน์ บำรุง
มหาชนอันด้วยอาหารวัตถุ มีข้าวยาคู องควรเคี้ยว ภัตและน้ำดื่มเป็นต้น
อันเป็นทิพย์. ความบกพร่องด้วยวัตถุอะไร ๆ มิได้มีแล้วแก่ใคร ๆ.
มหาชนอันเทวดาทั้งหลาย บำรุงอยู่อย่างนั้น เดินทางได้วันละโยชน์ ๆ
โดยเดือนหนึ่งก็ถึงกรุงสาวัตถี. เกวียนทั้ง 500 เล่ม ยังเต็มบริบูรณ์เช่น
เติมนั้นแหละ. คฤหบดี ได้สละบรรณาการ อันพวกเทวดานั้นแลและ
มนุษย์ทั้งหลายนำมา ไปแล้ว.

พระศาสดาทรงแสดงปฏิหาริย์


พระศาสดา ตรัสกะพระอานนท์เถระว่า " อานนท์ ในเวลาบ่าย
วันนี้ จิตตคฤหบดี อันอุบาสก 500 ห้อมล้อมแล้ว จักมาไหว้เรา."
พระอานนท์. พระเจ้าข้า ก็ในกาลที่จิตตคฤหบดีนั้น ถวายบังคม

พระองค์ ปาฏิหาริย์ไร ๆ จักมีหรือ ?
พระศาสดา. จักมี อานนท์.
อานนท์. ปาฏิหาริย์อะไร ? พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ในกาลที่จิตตคฤหบดีนั้น มาไหว้เรา ฝนลูกเห็บ
แห่งดอกไม้ทิพย์ มีสี 5 สี จักตกโดยถ่องแถวประมาณเพียงเข่าใน
ประเทศประมาณ 8 กรีส โดยวิธีนับอย่างของหลวง.
ชาวเมือง ฟังข่าวนั้นแล้ว คิดว่า " ได้ยินว่า จิตตคฤหบดีผู้มี
บุญมากอย่างนั้น จักมาถวายบังคมพระศาสดาวันนี้, เขาว่าปาฏิหาริย์เห็น
ปานนี้ จักมี, แม้พวกเรา จักได้เห็นผู้มีบุญมากนั้น" ดังนี้แล้วได้ถือ
เอาเครื่องบรรณาการไปยืนอยู่สองข้างทาง. ในกาลที่จิตตคฤหบดีมาใกล้
วิหาร ภิกษุ 500 รูปมาถึงก่อน. จิตตคฤหบดี กล่าวกะพวกอุบาสิกาว่า
" แม่ทั้งหลาย พวกท่านจงมาข้างหลัง" แล้ว ส่วนตนอันอุบาสก 500
แวดล้อมแล้ว ได้ไปสู่สำนักของพระศาสดา. ก็ชนทั้งหลาย ผู้ยืนก็ดี
นั่งก็ดี ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายมิได้มีข้างนี้หรือข้าง
โน้น ย่อมยืนอยู่แน่นขนัดเทียวในสองข้างแห่งพุทธวิถี. จิตตคฤหบดี
ก้าวลงสู่พุทธวิถีใหญ่แล้ว. ที่อันพระอริยสาวกผู้บรรลุผล 3 แลดู ๆ
หวั่นไหวแล้ว. มหาชนแลดูแล้ว ด้วยคิดว่า " เขาว่า คนนั่นคือ
จิตตคฤหบดี." คฤหบดีนั้นเข้าเฝ้าพระศาสดา เข้าไปภายในพระพุทธรัศมี
มีพรรณะ 6 จับพระบาทพระศาสดาที่ข้อพระบาททั้งสองถวายบังคมแล้ว.
ในขณะนั้นเอง ฝนดอกไม้มีประการดังกล่าวมา ตกแล้ว. สาธุการพัน
หนึ่งเป็นไปแล้ว.

จิตตคฤหบดีถวายทาน


คฤหบดีนั้น อยู่ในสำนักพระศาสดาสิ้นเดือนหนึ่งแล ได้นิมนต์
ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานทั้งสิ้น ให้นั่งในวิหารนั่นแหละ
ถวายทานใหญ่แล้ว. ทาภิกษุแม้ผู้มากับตนไว้ภายในวิหารนั้นแหละบำรุง
แล้ว. ไม่ต้องหยิบอะไร ๆ ในเกวียนของตน แม้สักวันหนึ่ง. ได้ทำกิจ
ทุกอย่าง ด้วยบรรณาการ อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนำมาเท่านั้น.
จิตตคฤหบดีนั้น ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว กราบทูลว่า "พระเจ้าข้า
ข้าพระองค์มาด้วยตั้งใจว่า 'จักถวายทานแด่พระองค์ ได้พักอยู่ใน
ระหว่างทางเดือนหนึ่ง, เดือนหนึ่งของข้าพระองค์ล่วงไปแล้ว ในที่นี้,
ข้าพระองค์ ไม่ได้เพื่อจะถือเอาของอะไร ๆ ที่ข้าพระองค์นำมาเลย,
ได้ถวายทาน สิ้นกาลเท่านี้ ด้วยบรรณาการที่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
นำมาเท่านั้น, แม้ถ้าข้าพระองค์นั้น จักอยู่ในที่นี้ สิ้นปีหนึ่ง, ก็จักไม่
ได้เพื่อจะถวายไทยธรรมของข้าพระองค์แน่แท้, ข้าพระองค์ปรารถนาจัก
ถ่ายเกวียนแล้วไป, ขอพระองค์ จงโปรดให้บอกที่สำหรับเก็บแก่
ข้าพระองค์เถิด."
พระศาสดา ตรัสกะพระอานนทเถระว่า "อานนท์" เธอจงให้
จัดที่แห่งหนึ่งให้ว่าง ให้แก่อุบาสก." พระเถระ ได้กระทำอย่างนั้นแล้ว.
ได้ยินว่า พระศาสดา ทรงอนุญาตกัปปิยภูมิแก่จิตตคฤหบดีแล้ว.

จิตตคฤหบดีเดินทางกลับ


ฝ่ายอุบาสกกับชนสามพัน ซึ่งมาพร้อมกับตน เดินทางกลับด้วย
เกวียนเปล่าแล้ว. พวกเทวดาและมนุษย์ ลุกขึ้นแล้ว กล่าวว่า "พระผู้