เมนู

ดำริเห็นปานนี้ ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้พาลใด, วิปัสสนา มรรคและผล
ย่อมไม่เจริญทีเดียวแก่ภิกษุผู้พาลนั้น, แต่ตัณหาซึ่งบังเกิดขึ้นในทวาร 6
และมานะ 9 อย่าง1 ย่อมเจริญแก่ภิกษุผู้พาลนั้นอย่างเดียว เหมือนน้ำ
เจริญแก่ทะเลในเวลาพระจันทร์ขึ้นฉะนั้น2.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.

พระสุธรรมเถระบรรลุพระอรหัต


แม้พระสุธรรมเถระ ฟังพระโอวาทนี้แล้ว ถวายบังคมพระศาสดา
ลุกขึ้นจากอาสนะ กระทำประทักษิณแล้ว ไปกับภิกษุผู้เป็นอนุทูตนั้น
กระทำคืนอาบัติในคลองจักษุของอุบาสก ยังอุบาสกให้อดโทษแล้ว.
พระสุธรรมเถระนั้น อันอุบาสกให้อดโทษด้วยคำว่า "กระผมอดโทษ
ขอรับ. ถ้าโทษของกระผมมี, ขอท่านอดโทษแก่กระผม" ตั้งอยู่ใน
พระโอวาท ที่พระศาสดาประทานแล้ว โดย 2-3 วันเท่านั้น ก็บรรลุ
พระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาแล้ว.

จิตตคฤหบดีไปเฝ้าพระศาสดา


ฝ่ายอุบาสก คิดว่า "เรายังไม่ได้เฝ้าพระศาสดาเลย เมื่อบรรลุโสดา-
ปัตติผลแล้ว, ยังไม่ได้เฝ้าพระศาสดาเหมือนกัน เมื่อดำรงอยู่ในอนาคามิผล,
1. มานะ 9 อย่าง ดูพิสดารในธรรมวิภาค ปริเฉทที่ 2.
2. นี้แปลตามฉบับสีหลและยุโรป แต่ฉบับของเราที่ใช่อยู่ เวลาแปลเติม นิสฺสาย เข้ามา
แปลว่า ตัณหาอันจะอาศัยฉันทะเป็นต้น เกิดขึ้นในทวาร 6 และมานะ 9 อย่างย่อมเจริญแก่..,
สี. ยุ. ฉนฺทาทโย เป็น จนฺโททเย.