เมนู

สมณะไม่ควรทำมานะและริษยา


ครั้นในกาลที่พระสุธรรมเถระนั้นกลับมา พระศาสดา ประทาน
ภิกษุผู้อนุทูตแก่เธอผู้นำมานะออกแล้ว ตรัสว่า "เธอจงไปเถิด, ไปกับ
ภิกษุนี้ จงให้อุบาสกอดโทษ" ดังนี้แล้ว ตรัสว่า "ธรรมดาสมณะ
ไม่ควรทำมานะหรือริษยาว่า 'วิหารของเรา, ที่อยู่ของเรา, อุบาสกของ
เรา, อุบาสิกาของเรา, เพราะเมื่อสมณะทำอย่างนั้น เหล่ากิเลส มีริษยา
และมานะเป็นต้น ย่อมเจริญ" เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึง
ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า:-
14. อสนฺตํ ภาวมิจฺเฉยฺย ปุเรกฺขารญฺจ ภิกฺขุสุ
อาวาเสสุ จ อิสฺสริยํ ปูชา ปรกุเลสุ จ
มเนว กตมญฺญนฺตุ คิหี ปพฺพชิตา อุโภ
มเมว อติวสา อสฺสุ กิจฺจากิจฺเจสุ กิสฺมิจิ
อิติ พาลสฺส สงฺกปฺโป อิสฺสา มโน จ วฑฺฒตฺ.
"ภิกษุผู้พาล พึงปรารถนาความยกย่องอันไม่
มีอยู่ ความแวดล้อมในภิกษุทั้งหลาย ความเป็นใหญ่
ในอาวาส และการบูชาในตระกูลแห่งชนอื่น ความ
ดำริ ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้พาลว่า 'คฤหัสถ์และ
บรรพชิตทั้งสองจงสำคัญกรรม อันเขาทำเสร็จแล้ว
เพราะอาศัยเราผู้เดียว จงเป็นไปในอำนาจของเรา
เท่านั้น ในกิจน้อยใหญ่ กิจไร ๆ, ริษยาและมานะ
ย่อมเจริญ (แก่เธอ)."