เมนู

10. เรื่องพระอุบลวรรณาเถรี [54]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถรี
นามว่าอุบลวรรณา ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "มธุวา มญฺญตี พาโล"
เป็นต้น.

พระเถรีตั้งความปรารถนา


ดังได้สดับมา พระเถรีนั้น ตั้งความปรารถนาไว้แทบบาทมูลของ
พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ กระทำบุญทั้งหลาย สิ้นแสนกัลป์
ท่องเที่ยวอยู่ ในเทวดาและมนุษย์ จุติจากเทวโลก ถือปฏิสนธิในสกุล
เศรษฐี ในกรุงสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้. ก็มารดาบิดาได้ตั้งชื่อนาง
ว่า อุบลวรรณนา เพราะนางมีผิวพรรณเหมือนกลีบอุบลเขียว. ต่อมา
ในกาลที่นางเจริญวัยแล้ว พระราชาและเศรษฐีทั้งหลายในสกลชมพู-
ทวีป ส่งบรรณาการไปสู่สำนักของเศรษฐีว่า "ขอเศรษฐีจงให้ธิดา
แก่เรา." ชื่อว่าคนผู้ไม่ส่งบรรณาการไป มิได้มี. ลำดับนั้น เศรษฐี
คิดว่า "เราจักไม่สามารถเอาใจของคนทั้งหมดได้. แต่เราจักทำอุบาย
ลักอย่างหนึ่ง." เศรษฐีนั้นเรียกธิดามาแล้วกล่าวว่า " แม่ เจ้าจักอาจ
เพื่อบวชไหม ? " คำของบิดาได้เป็นเหมือนน้ำมันที่หุงแล้วตั้ง 100 ครั้ง
อันเขารดลงบนศีรษะ เพราะความที่นางมีภพมีในที่สุด; เพราะฉะนั้น
นางจึงกล่าวกะบิดาว่า "พ่อ ฉันจักบวช." เศรษฐีนั่น ทำสักการะ
เป็นอันมากแก่นางแล้ว นำนางไปสู่สำนักนางภิกษุณี ให้บวชแล้ว.

พระอุบลวรรณาเถรีบรรลุพระอรหัต


เมื่อนางบวชแล้วไม่นาน วาระรักษาลูกดาลในโรงอุโบสถถึงแล้ว
นางตามประทีป กวาดโรงอุโบสถ ยืนถือนิมิตแห่งเปลวประทีป แลดู
แล้ว ๆ เล่า ๆ ยังฌานมีเตโชกสิณเป็นอารมณ์ให้เกิดแล้ว กระทำฌาน
นั้นแลให้เป็นบาท บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาและอภิญญา
ทั้งหลายแล้ว. โดยสมัยอื่น พระเถรีนั้นเที่ยวจาริกไปในชนบท กลับมา
แล้ว เข้าไปสู่ป่าอันธวัน. ในกาลนั้น พระศาสดายังไม่ทรงห้ามการอยู่ป่า
ของพวกนางภิกษุณี. ครั้งนั้นพวกมนุษย์ทำกระท่อม ตั้งเตียงกั้นม่านไว้
ในป่านั้น แก่พระเถรีนั้น. พระเถรีนั้น เข้าไปบิณฑบาตในกรุงสาวัตถี
ออกมาแล้ว.

นันทมาณพข่มขืนพระเถรี


ฝ่ายนันทมาณพ ผู้เป็นบุตรแห่งลุงของพระเถรีนั้น มีจิตปฏิพัทธ์
ตั้งแต่กาลแห่งพระเถรียังเป็นคฤหัสถ์ สดับความที่พระเถรีมา จึงไปสู่ป่า
อันธวันก่อนแต่พระเถรีมาทีเดียว เข้าไปสู่กระท่อม ซ่อนอยู่ภายใต้เตียง
พอเมื่อพระเถรีมาแล้ว เข้าไปสู่กระท่อม ปิดประตู นั่งลงบนเตียง เมื่อ
ความมืดในคลองจักษุยังไม่ทันหาย เพราะมาจาก (กลาง) แดดใน
ภายนอก, จึงออกมาจากภายใต้เตียง ขึ้นเตียงแล้ว ถูกพระเถรีห้ามอยู่ว่า
" คนพาล เธออย่าฉิบหายเลย, คนพาล เธออย่าฉิบหายเลย" ข่มขืน
กระทำกรรมอันตนปรารถนาแล้วก็หนีไป. ครั้งนั้น แผ่นดินให้ประดุจ
ว่าไม่อาจจะทรงโทษของเขาไว้ได้ แยกออกเป็น 2 ส่วนแล้ว . เขาข้าไปสู่
แผ่นดิน ไปเกิดในอเวจีมหานรกแล้ว.