เมนู

ไม่ควรทำกรรมที่เดือดร้อนภายหลัง


ในเวลาเย็น ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า " แหม !
กรรมของนายมาลาการ น่าอัศจรรย์. เธอสละชีวิตเพื่อพระพุทธเจ้าผู้ยัง
ดำรงพระชนม์อยู่ กระทำการบูชาด้วยดอกไม้แล้ว ได้ของพระราชทาน
ชื่อว่าหมวด 8 ล้วน ในขณะนั้นนั่นเอง." พระศาสดาเสด็จออกจาก
พระคันธกุฎีแล้ว ไปสู่โรงธรรมด้วยการเสด็จไป 3 อย่าง อย่างใด
อย่างหนึ่ง ประทับนั่งบนพระพุทธอาสน์แล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย บัดนี้ เธอทั้งหลายนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ ?" เมื่อ
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วยกถาชื่อนี้," จึงตรัสว่า "อย่างนั้นภิกษุ
ทั้งหลาย ความเดือดร้อนในภายหลังย่อมไม่มี โสมนัสเท่านั้นย่อมเกิดขึ้น
ในขณะที่ระลึกแล้ว ๆ เพราะบุคคลกระทำกรรมใด, กรรมเห็นปานนั้น
อันบุคคลควรกระทำแท้" เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัส
พระคาถานี้ว่า:-
9. ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ
ยสฺส ปตีโต สุมโน วิปากํ ปฏิเสวติ.
"บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใน
ภายหลัง เป็นผู้เอิบอิ่ม มีใจดี ย่อมเสวยผลของ
กรรมใด, กรรมนั้นแล อันบุคคลทำแล้ว เป็น
กรรมดี."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า ยํ กตฺวา ความว่า บุคคลกระทำ