เมนู

เรียกมาถามว่า " อะไรกันนี่ ?" จึงกราบทูลว่า " สามีของหม่อมฉัน
เอาดอกไม้สำหรับบำรุงพระองค์บูชาพระศาสดาแล้ว มีมือเปล่ามาสู่เรือน
ถูกหม่อมฉันถามว่า " ดอกไม้อยู่ไหน ? ' ก็กล่าวคำชื่อนี้, หม่อมฉันด่า
เขาแล้วกล่าวว่า ' ธรรมดาพระราชาทั้งหลายเป็นผู้ดุร้าย กริ้วคราวเดียวก็
กระทำความพินาศแม้มาก ด้วยการตัดมือและเท้าเป็นต้น, ความพินาศ
พึงมีแม้แก่เรา เพราะกรรมที่เธอกระทำ ' ดังนี้แล้วก็ทิ้งเขามาในที่นี้;
กรรมที่เขากระทำ จงเป็นกรรมดีก็ตาม จงเป็นกรรมชั่วก็ตาม, กรรม
นั้นจงเป็นของเขาผู้เดียว; ขอเดชะ พระองค์จงทรงทราบความที่เขาอัน
หม่อมฉันทิ้งแล้ว."

พระราชาทรงทำเป็นกริ้ว


พระราชาทรงบรรลุโสดาปัตติผล ถึงพร้อมด้วยศรัทธา เป็น
อริยสาวก ด้วยการเห็นทีแรกนั้นแล ทรงดำริว่า "โอ ! หญิงนี้เป็น
อันธพาล ไม่ยังความเลื่อมใสในคุณเห็นปานนี้ให้เกิดขึ้น." ท้าวเธอ
ทำเป็นดังกริ้ว ตรัสว่า " เจ้าพูดอะไร แม่ ? นายมาลาการนั้นกระทำ
การบูชา ด้วยดอกไม้สำหรับบำรุงเราหรือ ?" หญิงนั้น ทูลว่า
" ขอเดชะ พระเจ้าข้า." พระราชาตรัสว่า " ความดีอันเจ้าทิ้งเขา
กระทำแล้ว, เราจักรู้กิจที่ควรกระทำแก่นายมาลาการผู้กระทำการบูชาด้วย
ดอกไม้ทั้งหลายของเรา," ทรงส่งหญิงนั้นไปแล้ว รีบเสด็จไปในสำนัก
พระศาสดา ถวายบังคมแล้ว เสด็จเที่ยวไปกับด้วยพระศาสดานั่นเทียว.
พระศาสดาทรงทราบความเลื่อมใสแห่งพระหฤทัย ของพระราชานั้น
เสด็จเที่ยวไปสู่พระนครตามถนนเป็นที่เที่ยวไปด้วยกลองแล้ว ได้เสด็จไป