เมนู

ชาวนานั้นแล้วก็จักจับชาวนานั่น, เว้นเราเสีย คนอื่นชื่อว่าผู้เป็นพยาน
ของชาวนานั้นจักไม่มี; แม้อุปนิสัยแห่งโสดาปัตติมรรค ของชาวนานั้น
ก็มีอยู่, เราไปในที่นั้น ย่อมควร." ฝ่ายชาวนานั้น ไปเพื่อไถนาแต่
เช้าตรู่. พระศาสดามีพระอานนทเถระเป็นปัจฉาสมณะ ได้เสด็จไปในที่
นั้นแล้ว. ชาวนาเห็นพระศาสดาแล้ว ไปถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วเริ่มไถนาอีก. พระศาสดา ไม่ตรัสอะไร ๆ กับเขา เสด็จไปยังที่ ๆ
ถุงบรรจุทรัพย์พันหนึ่งตก ทอดพระเนตรเห็นถุงนั้นแล้ว จึงตรัสกะพระ-
อานนท์เถระว่า "อานนท์ เธอเห็นไหม อสรพิษ." พระอานนท์เถระ
ทูลว่า "เห็น พระเจ้าข้า อสรพิษร้าย." ชาวนาได้ยินถ้อยคำนั้น คิดว่า
" ที่นี้เป็นที่เที่ยวไปในเวลาหรือมิใช่เวลาแห่งเรา. ได้ยินว่า อสรพิษมีอยู่
ในที่นั่น " เมื่อพระศาสดาตรัสคำมีประมาณเท่านั้นหลีกไปแล้ว, จึงถือ
เอาด้ามปฏักเดินไปด้วยตั้งใจว่า " จักฆ่าอสรพิษนั้น เห็นถุงบรรจุ
ทรัพย์พันหนึ่ง แล้วคิดว่า " คำนั้น จักเป็นคำอันพระศาสดาตรัสหมาย
เอาถุงบรรจุทรัพย์พันหนึ่งนี้ " จึงถือถุงบรรจุทรัพย์พันหนึ่งนั้นกลับไป
เพราะความที่ตนเป็นคนไม่ฉลาด จึงซ่อนมันไว้ในที่สมควรแห่งหนึ่ง
กลบด้วยฝุ่นแล้วเริ่มจะไถนาอีก.

ชาวนาถูกจับไปประหารชีวิต


แม้พวกมนุษย์ เมื่อราตรีสว่างแล้ว เห็นกรรมอันพวกโจรกระทำ
ในเรือน จึงเดินตามรอยเท้าไป ถึงนานั้นแล้ว เห็นที่ ๆ พวกโจรแบ่ง
ภัณฑะกันในนานั้น ได้เห็นรอยเท้าของชาวนาแล้ว. มนุษย์เหล่านั้น
ไปตามแนวรอยเท้าของชาวนานั้น เห็นที่แห่งถุงทรัพย์ที่ชาวนาเก็บเอาไว้

คุ้ยฝุ่นออกแล้ว ถือเอาถุงทรัพย์ คุกคามว่า "แกปล้นเรือนแล้ว เทียว
ไปราวกับไถนาอยู่" โบยด้วยท่อนไม้ นำไปแสดงแก่พระราชาแล้ว.
พระราชา ทรงสดับความเป็นไปนั้นแล้ว จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตชาวนา
นั้น. พวกราชบุรุษ มัดชาวนานั้นให้มีแขนไพล่หลัง เฆี่ยนด้วยหวาย
นำไปสู่ตะแลงแกงแล้ว. ชาวนานั้นถูกราชบุรุษเฆี่ยนด้วยหวาย ไม่กล่าว
คำอะไร ๆ อื่น กล่าวอยู่ว่า "เห็นไหม อานนท์ อสรพิษ, 'เห็น
พระเจ้าข้า อสรพิษร้าย " เดินไปอยู่. ครั้งนั้น พวกราชบุรุษ ถามเขาว่า
" แกกล่าวถ้อยคำของพระศาสดาและพระอานนทเถระเท่านั้น, นี่ชื่อ
อะไร ?" เมื่อชาวนาตอบว่า "เราเมื่อได้เฝ้าพระราชาจึงจักบอก," จึง
นำไปสู่สำนักของพระราชา กราบทูลความเป็นไปนั้นแด่พระราชาแล้ว.

ชาวนาพ้นโทษเพราะอ้างพระสาดาเป็นพยาน


ลำดับนั้น พระราชา ตรัสถามชาวนานั้นว่า "เพราะเหตุไร เจ้า
จึงกล่าวดังนั้น ?" แม้ชาวนานั้น กราบทูลว่า "ข้าแต่สมมติเทพ
ข้าพระองค์ไม่ใช่โจร" แล้วก็กราบทูลเรื่องนั้นทั้งหมดแด่พระราชา จำเดิม
แต่กาลที่คนออกไปเพื่อต้องการจะไถนา. พระราชา ทรงสดับถ้อยคำของ
ชาวนานั้นแล้ว ตรัสว่า " พนาย ชาวนานี้อ้างเอาพระศาสดาผู้เป็นบุคคล
เลิศในโลกเป็นพยาน, เราจะยกโทษแก่ชาวนานี่ยังไม่สมควร, เราจักรู้สิ่งที่
ควรกระทำในเรื่องนี้" ดังนี้แล้ว ทรงพาชาวนานั้นไปยังสำนักของพระ-
ศาสดาในเวลาเย็น ทูลถามพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระ-
องค์ได้เสด็จไปสู่ที่ไถนาของชาวนานั้น กับพระอานนท์เถระแลหรือ ?"
พระศาสดา. ขอถวายพระพร มหาบพิตร.