เมนู

นางวางกระเบื้องไว้บนมือแล้ว กล่าวกะบุตรนั้นว่า "พ่อ แม่อาศัยเจ้า
ถึงความลำบากมาก. บัดนี้ แม่ไม่อาจเลี้ยงเจ้าได้, อาหารวัตถุทั้งหลาย
มีข้าวเป็นต้นที่เขาจัดไว้ เพื่อคนทั้งหลายมีคนกำพร้าและคนเดินทางเป็นต้น
มีอยู่ในนครนี้, เจ้าจงเที่ยวไปเพื่อภิกษาในนครนั้นเลี้ยงชีพเถิด." ดังนี้
แล้ว ปล่อยบุตรนั้นไป. ทารกนั้นเที่ยวไปตามลำดับเรือน ถึงที่แห่งตน
เกิดในคราวเป็นอานนท์เศรษฐีแล้ว เป็นผู้ละลึกชาติได้ เข้าไปสู่เรือน
ของตน. ใคร ๆ ไม่ได้สังเกตเขาในซุ้มประตูทั้งสาม ในซุ้มประตูที่ 4
พวกบุตรของมูลสิริเศรษฐีเห็น (เขา) แล้วมีใจหวาดเสียวร้องไห้แล้ว.
ลำดับนั้น พวกบุรุษของเศรษฐีกล่าวกะทารกนั้นว่า " เองจงออกไป
คนกาลกิณี" โบยพลางนำออกไปโยนไว้ที่กองหยากเยื่อ.

พระศาสดาแสดงธรรมแก่มูลสิริเศรษฐี


พระศาสดา มีพระอานนทเถระเป็นปัจฉาสมณะ เสด็จบิณฑบาต
ถือที่นั้นแล้ว ทอดพระเนตรดูพระเถระ อันพระเถระนั้นทูลถามแล้ว
ตรัสบอกพฤติการณ์นั้น, พระเถระให้เชิญมูลสิริเศรษฐีมาแล้ว. หมู่มหาชน
ประชุมกันแล้ว. พระศาสดา ตรัสเรียกมูลสิริเศรษฐีมาแล้ว ตรัสถามว่า
" ท่านรู้จักทารกนั่นไหม ?" เมื่อมูลสิริเศรษฐีนั้นทูลว่า "ไม่รู้จัก"
จึงตรัสว่า "ทารกนั้น คืออานนท์เศรษฐีผู้บิดาของท่าน" แล้วยังทารก
นั้นให้บอก (ขุมทรัพย์) ด้วยพระดำรัสว่า "อานนท์เศรษฐี ท่านจง
บอกขุมทรัพย์ใหญ่ 5 แห่งแก่บุตรของท่าน" แล้วทรงยังมูลสิริเศรษฐี
ผู้ไม่เชื่ออยู่นั้นให้เชื่อแล้ว. มูลสิริเศรษฐีนั้นได้ถึงพระศาสดาเป็นสรณะ
แล้ว. พระศาสดาเมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่มูลลิริเศรษฐีนั้น จึงตรัส