เมนู

กรรมตามทัน


ในเวลาเย็น ภิกษุนอกนี้ตื่นขึ้น เห็นไอพลุ่งออกอยู่ จึงคิดว่า น้ำ
จักเป็นน้ำอันภิกษุนั้นต้มแล้วตั้งไว้ในซุ้ม" รีบไปไหว้พระเถระแล้วเรียน
ว่า "น้ำกระผมตั้งไว้ในซุ้ม ขอรับ, นิมนต์ท่านสรงเถิด" แล้วเข้าไป
สู่ซุ้มกับด้วยพระเถระเหมือนกัน. พระเถระ เมื่อไม่เห็นน้ำ จึงกล่าวว่า
"น้ำอยู่ที่ไหน ? คุณ " ภิกษุหนุ่มไปยังโรงไฟ จ้วงกระบวยลงในภาชนะ
รู้ความที่ภาชนะเปล่า จึงโพนทะนาว่า " ขอท่านจงดูกรรมของภิกษุหัวดื้อ
เธอยกภาชนะเปล่าขึ้นตั้งไว้บนเตา แล้วไปไหนเสีย ? กระผมเรียนด้วย
เข้าใจว่า " น้ำมีอยู่ในซุ้ม" ดังนี้แล้วก็ได้ถือเอาหม้อน้ำไปยังท่าน้ำ.
ฝ่ายภิกษุนอกนี้ นำเอาน้ำมาจากหลังซุ้มแล้วตั้งไว้ในซุ้ม. แม้
พระเถระ คิดว่า " ภิกษุหนุ่มรูปนี้ กล่าวว่า ' น้ำกระผมต้มตั้งไว้ใน
ซุ้มแล้ว, นิมนต์ท่านมาสรงเถิด ขอรับ' บัดนี้ โพนทะนาอยู่ถือเอา
หม้อไปสู่ท่าน้ำ, นี่เหตุอะไรหนอแล ?" ใคร่ครวญดู ก็รู้ว่า " ภิกษุ
หนุ่มรูปนั้น ประกาศกิจวัตรที่ภิกษุนี้กระทำแล้ว เป็นดังว่าตนกระทำแล้ว
ตลอดกาลเท่านี้ " ได้ให้โอวาทแก่เธอผู้มานั่งในเวลาเย็นว่า "คุณ ชื่อว่า
ภิกษุ กล่าวกิจที่ตนกระทำแล้วนั่นแหละว่า 'ตนกระทำแล้ว' ย่อมควร,
จะกล่าวกิจที่คนมิได้กระทำว่า เป็นกิจที่ตนกระทำแล้ว ย่อมไม่ควร,
บัดนี้ เธอกล่าวว่า "น้ำผมตั้งไว้ในซุ้ม, นิมนต์ท่านสรงเถิด ขอรับ '
เมื่อเราเข้าไปยืนอยู่, ถือหม้อน้ำโพนทะนาไป, ชื่อว่าบรรพชิตกระทำอย่าง
นั้น ย่อมไม่ควร ."
ภิกษุนั้น กล่าวว่า ท่านทั้งหลาย จงดูกรรมของพระเถระ,
พระเถระ อาศัยเหตุสักว่าน้ำ จึงกล่าวกะเราอย่างนี้" โกรธแล้วในวัน

รุ่งขึ้น ไม่เข้าไปบิณฑบาตกับพระเถระ. พระเถระไปสู่ประเทศแห่งหนึ่ง
กับภิกษุนอกนี้. เมื่อพระเถระไปแล้ว ภิกษุนั้น ไปสู่ตระกูลอุปัฏฐาก
ของพระเถระ ถูกอุปัฏฐากถามว่า "พระเถระไปไหน ? ขอรับ" จึง
บอกว่า " ความไม่ผาสุกเกิดแก่พระเถระ, ท่านนั่งอยู่ในวิหารนั่นเอง."
อุปัฏฐาก. ก็ได้อะไรเล่า จึงจะควร ? ขอรับ.
ภิกษุ. ได้ยินว่า ท่านทั้งหลายจงถวายอาหารชื่อเห็นปานนี้.
อุปัฏฐากทั้งหลาย ได้จัดแจงตามทำนองที่ภิกษุนั้นกล่าวนั่นเอง
ถวายแล้ว. ภิกษุนั้น ฉันอาหารนั้นในระหว่างหนทางแล ไปสู่วิหารแล้ว.

พระเถระจับความเลวทรามของศิษย์ได้


ฝ่ายพระเถระ ได้ผ้าเนื้อละเอียดผืนใหญ่ในที่ที่ไปแล้ว ก็ได้ให้
แก่ภิกษุหนุ่มผู้ไปกับด้วยตน. ภิกษุหนุ่มนั้น ย้อมผ้านั้นแล้ว ได้กระทำ
ให้เป็นผ้าสำหรับนุ่งห่มแห่งตน. ในวันรุ่งขึ้น พระเถระไปสู่ตระกูล
อุปัฏฐากนั้น, เมื่อพวกอุปัฏฐาก กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ พวกข้าพเจ้า
ทราบว่า 'ได้ยินว่า ความไม่ผาสุกเกิดแก่ท่าน' จึงจัดแจงอาหารส่งไป
โดยทำนองที่ภิกษุหนุ่มกล่าวนั่นเอง ความผาสุกเกิดแก่ท่านเพราะฉันแล้ว
หรือ ?" ก็นิ่งเสีย ก็พระเถระไปสู่วิหารแล้ว กล่าวกะภิกษุหนุ่มนั้นผู้
ไหว้แล้ว นั่งอยู่ในเวลาเย็นอย่างนี้ว่า " คุณ ได้ยินว่า วานนี้ เธอกระทำ
กรรมชื่อนี้, กรรมนี้ ไม่สมควรแก่บรรพชิตทั้งหลาย. บรรพชิตกระทำ
วิญญัติ ( ขอ) แล้วฉัน ย่อมไม่สมควร."

ประทุษร้ายแก่ผู้มีคุณตายไปเกิดในอเวจี


ภิกษุนั้น โกรธแล้ว ผูกอาฆาตในพระเถระว่า "ในวันก่อน