เมนู

12. เครื่องครหทินน์ [44]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภสาวกของ
นิครนถ์ ชื่อครหทินน์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยถา สงฺการ-
ธานสฺมึ"
เป็นต้น.

เป็นสหายกันแต่เลื่อมใสวัตถุไม่ตรงกัน


ความพิสดารว่า ในกรุงสาวัตถี ได้มีชนผู้เป็นสหายกันสองคน
คือ สิริคุตต์ 1 ครหทินน์ 1. ในสองคนนั้น สิริคุตต์เป็นอุบาสก,
ครหทินน์เป็นสาวกของนิครนถ์. พวกนิครนถ์ ย่อมกล่าวกะครหทินน์
นั้นเนือง ๆ อย่างนี้ว่า "การที่ท่านพูดกะสิริคุตต์ ผู้สหายของท่านว่า
ท่านเข้าไปหาพระสมณโคดมทำไม ? ท่านจักได้อะไร ในสำนักของ
พระสมณโคดมนั้น ? ' ดังนี้แล้ว กล่าวสอนโดยอาการที่สิริคุตต์เข้ามาหา
พวกเราแล้ว จักให้ไทยธรรมแก่พวกเรา จะไม่ควรหรือ ?" ครหทินน์
ฟังคำของนิครนถ์เหล่านั้นแล้ว ก็หมั่นไปพูดกะสิริคุตต์" ในที่ที่เขายืน
และนั่งแล้วเป็นต้น อย่างนี้ว่า "สหาย ประโยชน์อะไรของท่านด้วย
พระสมณโคดมเล่า ? ท่านเข้าไปหาพระสมณโคดมนั้นจักได้อะไร ? การ
ที่ท่านเข้าไปหาพระผู้เป็นเจ้าของเราแล้ว ถวายทานแก่พระผู้เป็นเจ้า
เหล่านั้น จะไม่ควรหรือ ?" สิริคุตต์แม้ฟังคำของครหทินน์นั้น ก็นิ่งเฉย

เสียหลายวัน รำคาญแล้ว วันหนึ่งจึงพูดว่า "เพื่อน ท่านหมั่นมาพูด
กะเราในที่ที่ยืนแล้วเป็นต้น อย่างนี้ว่า 'ท่านไปหาพระสม โคคมแล้ว
จักได้อะไร ? ท่านจงเข้าไปหาพระผู้เป็นเจ้าของเรา ถวายทานแก่พระผู้
เป็นเจ้าเหล่านั้น. ท่านจงบอกแก่เราก่อน. พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายของท่าน
ย่อมรู้อะไร ?"
ครหทินน์. "โอ ! นาย ท่านอย่าพูดอย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่พระ-
ผู้เป็นเจ้าทั้งหลายของเรา จะไม่รู้ไม่มี, พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ย่อมรู้เหตุ
ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบันทั้งหมด, กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ทั้งหมด, ย่อมรู้เหตุที่ควรและไม่ควรทั้งหมดว่า 'เหตุนี้ จักมี, เหตุนี้
จักไม่มี.'
สิริคุตต์. ท่านพูดว่า 'พระผู้เป็นเจ้าของท่าน ย่อมรู้' ดังนี้
มิใช่หรือ ?
ครหทินน์. ข้าพเจ้าพูดอย่างนั้น.
สิริคุตต์. ถ้าเมื่อเป็นเช่นนั้น, ท่านไม่บอกเนื้อความนี้แก่ข้าพเจ้า
ตลอดกาลประมาณเท่านี้ นับว่าทำกรรมหนักแล้ว, วันนี้ ข้าพเจ้าทราบ
อานุภาพแห่งญาณของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายแล้ว, จงไปเถิดสหาย, จง
นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ตามคำของข้าพเจ้า.
ครหทินน์นั้นไปสำนักของพวกนิครั้นถ์ ไหว้นิครนถ์เหล่านั้นแล้ว
กล่าวว่า " สิริคุตต์สหายของข้าพเจ้า นิมนต์เพื่อฉันวันพรุ่งนี้."
นิครนถ์. สิริคุตต์พูดกะท่านเองหรือ ?
ครหทินน์. อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า.
นิครนถ์เหล่านั้นร่าเริงยินดีแล้ว กล่าวแล้วว่า " กิจของพวกเรา

สำเร็จแล้ว, จำเดิมแต่กาลที่สิริคุตต์เลื่อมใสในพวกเราแล้ว สมบัติชื่อ
อะไร จักไม่มีแก่พวกเรา ?" ที่อยู่ แม้ของสิริคุตต์ก็ใหญ่.

สิริคุตต์เตรียมรับรองนิครนถ์


สิริคุตต์นั้น ให้คนขุดหลุมยาว 2 ข้าง ในระหว่างเรือน 2 หลัง
นั้นแล้ว ก็ให้เอาคูถเหลวใส่จนเต็ม, ให้ตอกหลักไว้ในที่สุด 2 ข้าง
ภายนอกหลุม ให้ผูกเชือกไว้ที่หลักเหล่านั้น ให้ตั้งเท้าหน้าของอาสนะ
ทั้งหลายไว้บนเบื้องบนหลุม ให้ตั้งเท้าหลังไว้ที่เชือก สำคัญอยู่ว่า "ใน
เวลาที่นั่งแล้วอย่างนั้นแล พวกนิครนถ์จักมีหัวปักตกลง." ให้คนลาด
เครื่องลาดไว้เบื้องบนอาสนะทั้งหลาย โดยอาการที่หลุมจะไม่ปรากฏ. ให้
คนล้างตุ่มใหญ่ ๆ แล้ว ให้ผูกปากด้วยใบกล้วยและผ้าเก่า ทำตุ่มเปล่า
เหล่านั้นแล ให้เปื้อนด้วยเมล็ดข้าวต้ม ข้าวสวย เนยใส น้ำอ้อยและขนม
ในภายนอกแล้ว ให้ตั้งไว้ข้างหลังเรือน.
ครหทินน์รีบไปเรือนของสิริคุตต์นั้นแต่เช้าตรู่แล้ว ถามว่า "ท่าน
จัดแจงสักการะเพื่อพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายแล้วหรือ ?"
สิริคุตต์. เออ สหาย ข้าพเจ้าจัดแจงแล้ว.
ครหทินน์. ก็สักการะนั่นอยู่ไหน ?
สิริคุตต์. ข้าวต้มในตุ่มทั้งหลายนั่นประมาณเท่านี้, ข้าวสวยในตุ่ม
ประมาณเท่านี้, เนยใส น้ำอ้อย ขนม เบื้องต้น ในตุ่มประมาณเท่านี้
อาสนะปูไว้แล้ว.
ครหทินน์นั้นกล่าวว่า " ดีละ" แล้วก็ไป. ในเวลาที่ครหทินน์
นั้นไปแล้ว พวกนิครนถ์ประมาณ 500 ก็มา. สิริคุตต์ออกจากเรือน