เมนู

แม้พระศาสดา ตรัสว่า "มารผู้ลามก เจ้าต้องการอะไรด้วย
สถานที่กุลบุตรชื่อโคธิกะเกิดแล้ว. เพราะคนอย่างเจ้า ตั้งร้อย ตั้งพัน
ก็ไม่อาจจะเห็นที่ที่โคธิกะนั้นเกิด" ดังนี้แล้ว ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
11. เตส สมฺปนฺนสีลานํ อุปฺปมาทวิหารินํ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ มาโร มคฺคํ น วินฺทติ.
"มาร ย่อมไม่ประสบพางของท่านผู้มีศีลถึง
พร้อมแล้ว มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท พ้นวิเศษ
แล้ว เพราะรู้ชอบ เหล่านั้น.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เตสํ คือ แห่งท่านที่ปรินิพพาน
เหมือนอย่างกุลบุตรชื่อโคธิกะ มีวิญญาณไม่ตั้งอยู่ ปรินิพพานแล้วฉะนั้น
บทว่า สมฺปนฺนสีลานํ คือ ผู้มีศีลบริบูรณ์แล้ว. บทว่า อปฺป-
มาทวิหารินํ
คือ ผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท กล่าวคือ ความไม่อยู่
ปราศจากสติ.
บาทพระคาถาว่า สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ ความว่า ผู้พ้นวิเศษ
แล้ว ด้วยวิมุตติ 5 เหล่านั้น คือ "ตทังควิมุตติ วิกขัมภนวิมุตติ สมุจ-
เฉทวิมุตติ ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ นิสสรณวิมุตติ" เพราะรู้โดยเหตุ คือโดย
นัย โดยการณ์.
บาทพระคาถาว่า มาโร มคิคํ น วินฺทติ ความว่า มารแม้
แสวงหาอยู่ โดยเต็มกำลัง ย่อมไม่ประสบ คือย่อมไม่ได้เฉพาะ ได้แก่
ย่อมไม่เห็น ทางแห่งพระมหาขีณาสพทั้งหลาย ผู้เห็นปานนี้ ไปแล้ว.