เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อปฺปมตฺโต คือ มีประมาณนิดหน่อย.
สองบทว่า โย จ สีลวตํ ความว่า ส่วนกลิ่นศีล ของผู้มีศีลทั้งหลาย
ใด. กลิ่นศีลนั้น หาเป็นกลิ่นเล็กน้อย เหมือนกลิ่นในกฤษณาและ
จันทน์แดงไม่ คือเป็นกลิ่นอันโอฬาร แผ่ซ่านไปเหลือเกิน, ด้วยเหตุ
นั้นแล กลิ่นศีล จึงเป็นกลิ่นสูงสุด คือประเสริฐ เลิศ ฟุ้งไปใน
เหล่าเทพเจ้าและเหล่ามนุษย์ คือฟุ้งไปในเหล่าเทพเจ้า และเหล่ามนุษย์
ได้แก่หอมตลบทั่วไปทีเดียว.
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น. เทศนาเกิดประโยชน์แก่มหาชนแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องถวายบิณฑบาตแก่พระมหากัสสปเถระ จบ.

11. เรื่องปรินิพพานของพระโคธิกเถระ [43]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยกรุงราชคฤห์ ประทับอยู่ในพระ-
เวฬุวัน ทรงปรารภการปรินิพพานของพระโคธิกเถระ ตรัสพระธรรม-
เทศนานี้ว่า "เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ" เป็นต้น.

พระเถระคิดฆ่าตนเพราะเสื่อมจากฌาน


ความพิสดารว่า ท่านผู้มีอายุนั้น อยู่ใกล้ถ้ำกาฬสิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ถูกต้องเจโตวิมุตติ
อันเกิดขึ้นในสมัย (เกิดเป็นครั้งคราว) เสื่อมจากเจโตวิมุตตินั้น ด้วย
อำนาจแห่งโรคชนิดหนึ่งอันเรื้อรัง. ท่านยังฌานที่ 2 บ้าง ที่ 3 บ้าง
ให้เกิดขึ้นถึง 6 ครั้ง แล้วก็เสื่อม ในวาระที่ 7 ให้เกิดขึ้นแล้ว คิดว่า
"เราเสื่อมจากฌานถึง 6 ครั้งแล้ว, ก็คติของผู้มีฌานเสื่อมแล้วแล ไม่แน่-
นอน, คราวนี้แล เราจักนำศัสตรามา" ดังนี้แล้ว จึงถือมีดสำหรับ
ปลงผม นอนบนเตียงน้อย เพื่อจะตัดก้านคอแล้ว.

มารทูลให้พระศาสดาทรงทราบ


มารรู้จิตของท่านแล้วคิดว่า "ภิกษุนี้ ใคร่จะนำศัสตรามา;
ก็แล ภิกษุทั้งหลายเมื่อนำศัสตรามา ย่อมเป็นผู้หมดความอาลัยในชีวิต,
ภิกษุเหล่านั้นเริ่มตั้งวิปัสสนาแล้ว ย่อมบรรลุพระอรหัตได้, ถ้าเราจักห้าม
ภิกษุนั้น; เธอจักไม่ทำตามคำของเรา, เราจักทูลให้พระศาสดาห้าม"