เมนู

" ทานที่สองผัวเมียนั่นถวายแล้ว จะเป็นน้ำผักดองหรือรำกำมือหนึ่งก็ตามที,
เราจักทำความสงเคราะห์แก่สองผัวเมียนั้น" ดังนี้แล้ว จึงได้ให้บาตรไป.
ท้าวสักกะนั้น เสด็จเข้าไปภายในเรือนแล้ว ทรงคดข้าวสุกออกจากหม้อ
ใส่เต็มบาตรแล้ว มอบถวายในมือพระเถระ. บิณฑบาตนั้นได้มีสูปพยัญชนะ
มากมาย ได้หอมตลบทั่วกรุงราชคฤห์แล้ว.

ท้าวสักกะตรัสบอกความจริงแก่พระเถระ


ในกาลนั้น พระเถระคิดว่า "ชายนี้ มีศักดิ์น้อย, บิณฑบาต
มีศักดิ์มาก เช่นกับโภชนะของท้าวสักกะ, นั่น ใครหนอ ?" ครั้งนั้น
พระเถระ ทราบชายนั้นว่า " ท้าวสักกะ" จึงกล่าวว่า "พระองค์ทรง
แย่งสมบัติของคนเข็ญใจ ( จัดว่า ) ทำกรรมหนักแล้ว . ใคร ๆ ก็ตาม
ที่เป็นคนเข็ญใจ ถวายทานแก่อาตมภาพในวันนี้ พึงได้ตำแหน่งเสนาบดี
หรือตำแหน่งเศรษฐี."
สักกะ. ผู้ที่เข็ญใจไปกว่ากระผม ไม่มีเลย ขอรับ.
พระเถระ, พระองค์เสวยสิริราชสมบัติในเทวโลก จะจัดว่าเป็นคน
เข็ญใจ เพราะเหตุไร ?
สักกะ. อย่างที่พระผู้เป็นเจ้าว่า ก็ถูกละ ขอรับ. แต่เมื่อพระ-
พุทธเจ้า ยังมิทรงอุบัติ, กระผมได้ทำกัลยาณกรรมไว้. เมื่อพุทธุปบาทกาล
ยังเป็นไปอยู่, เทพบุตรผู้มีศักดิ์เสมอกัน 3 องค์เหล่านี้ คือ จูฬรถเทพบุตร,
มหารถเทพบุตร, อเนกวัณณเทพบุตรทำกัลยาณกรรมแล้ว ได้เกิดในที่
ใกล้ของกระผม มีเดชมากกว่ากระผม; ก็กระผม เมื่อเทพบุตรทั้งสามนั้น
พาพวกบริจาริกาลงสู่ระหว่างถนน ด้วยคิดว่า 'จักเล่นนักขัตฤกษ์' ต้อง