เมนู

" พระเจ้าข้า ชื่อว่าการขับร้องของนางวิสาขา พวกข้าพระองค์ไม่เคยเห็น
ในกาลนาน ประมาณเท่านี้, วันนี้ นางอันบุตรและหลานแวดล้อมแล้ว
ขับเพลงเดินเวียนรอบปราสาท, ดีของนางกำเริบหรือหนอแล, หรือนาง
เสียจริตเสียแล้ว ?" พระศาสดาตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธิดาของเราหา
ขับเพลงไม่, แต่อัชฌาสัยส่วนตัวของเธอเต็มเปี่ยมแล้ว, เธอดีใจว่า
' ความปรารถนาที่เราตั้งไว้ ถึงที่สุดแล้ว, จึงเดินเปล่งอุทาน." เมื่อ
ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลว่า " ก็นางตั้งความปรารถนาไว้เมื่อไร พระเจ้าข้า,"
จึงตรัสว่า "จักฟังหรือภิกษุทั้งหลาย ." เมื่อภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า
"จักฟัง พระเจ้าข้า." จึงทรงนำอดีตนิทานมา (ตรัสดังต่อไปนี้):-

บุรพประวัติของนางวิสาขา


ภิกษุทั้งหลาย ในที่สุดแสนกัปแต่นี้ไป พระพุทธเจ้า พระนามว่า
ปทุมุตตระ ทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก. พระองค์ได้มีพระชนมายุแสนปี,
มีภิกษุขีณาสพแสนหนึ่งเป็นบริวาร, นครชื่อหังสวดี พระชนกเป็นพระ-
ราชา นามว่า สุนันทะ, พระชนนีเป็นพระเทวี นามว่า สุชาดา.
อุบาสิกาผู้เป็นยอดอุปัฏฐายิกาของพระศาสดาองค์นั้นทูลขอพร 8 ประการ
แล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา บำรุงพระศาสดาด้วยปัจจัย 4 ย่อมไปสู่
ที่บำรุงทั้งเย็นและเช้า. หญิงสหายคนหนึ่งของอุบาสิกานั้น ย่อมไปวิหาร
กับอุบาสิกานั้นเป็นนิตย์. หญิงนั้น เห็นอุบาสิกนั้น พูดกับพระศาสดา
ด้วยความคุ้นเคย และเห็นความเป็นผู้สนิทสนมกับพระศาสดา คิดว่า
" เธอทำกรรมอะไรหนอแล จึงเป็นผู้สนิทสนมกับพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
อย่างนี้ ?" ดังนี้แล้ว จึงทูลถามพระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า หญิงนี้

เป็นอะไรแก่พระองค์ ?"
พระศาสดา. เป็นเลิศแห่งหญิงผู้อุปัฏฐายิกา.
หญิง. พระเจ้าข้า นางกระทำกรรมอะไร จึงเป็นเลิศแห่งหญิงผู้
อุปัฏฐายิกา ?
พระศาสดา. เธอตั้งความปรารถนาไว้ตลอดแสนกัป.
หญิง. บัดนี้ หม่อมฉันปรารถนาแล้วอาจจะได้ไหม พระเจ้าข้า ?
พระศาสดา. จ้ะ อาจ.
หญิงนั้นกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ถ้ากระนั้น ขอพระองค์
กับภิกษุแสนรูป โปรดรับภิกษาของหม่อมฉันตลอด 7 วันเถิด.
พระศาสดาทรงรับแล้ว. หญิงนั้น ถวายทานครบ 7 วัน ในวันที่สุด
ได้ถวายผ้าสาฎกเพื่อทำจีวรแล้ว ถวายบังคมพระศาสดา หมอบลงแทบ
บาทมูล ตั้งความปรารถนาว่า " พระเจ้าข้า ด้วยผลแห่งทานนี้ หม่อม
ฉันปรารถนาความเป็นใหญ่ในเทวโลกเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่งก็หาไม่.
หม่อมฉันพึงได้พร 8 ประการ ในสำนักแห่งพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์
แล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา เป็นยอดของอุบาสิกาผู้สามารถเพื่อบำรุง
ด้วยปัจจัย 4. " พระศาสดา ทรงดำริว่า " ความปรารถนาของหญิงนี้ จัก
สำเร็จหรือหนอ ?" ทรงคำนึงถึงอนาคตกาล ตรวจดูตลอดแสนกัปแล้ว
จึงตรัสว่า ในที่สุดแห่งแสนกัป พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม จักทรง
อุบัติขึ้น, ในกาลนั้น เธอจักเป็นอุบาสิกาชื่อว่าวิสาขา ได้พร 8 ประการ
ในสำนักของพระองค์แล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา จักเป็นเลิศแห่ง
หญิงผู้เป็นอุปัฏฐายิกา ผู้บำรุงด้วยปัจจัย 4." สมบัตินั้นได้เป็นประหนึ่ง
ว่า อันนางจะพึงได้ในวันพรุ่งนี้ทีเดียว.

นางทำบุญจนตลอดอายุแล้ว จุติจากอัตภาพนั้น เกิดในเทวโลก
ท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่ากัสสป เป็นพระธิดา พระนามว่า สังฆทาสี ผู้พระกนิษฐา
ของบรรดาพระธิดา 7 พระองค์ของพระเจ้ากาสีพระนามว่ากิกิ ยังมิได้ไป
สู่ตระกูลอื่น ทรงทำบุญมีทานเป็นต้นกับด้วยเจ้าพี่หญิงเหล่านั้นตลอดกาล
นาน, ได้ทำความปรารถนาไว้ แม้แทบบาทมูลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่ากัสสป ว่า " ในอนาคตกาล หม่อมฉัน พึงได้พร 8 ประการ
ในสำนักแห่งพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์แล้ว ตั้งอยู่ในฐานะดังมารดา
เป็นยอดแห่งอุบาสิถาผู้ถวายปัจจัย 4." ก็จำเดิมแต่กาลนั้น นางท่องเที่ยว
อยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ในอัตภาพนี้ ได้เกิดเป็นธิดาของธนญชัน
เศรษฐีผู้เป็นบุตรแห่งเมณฑกเศรษฐี ได้ทำบุญเป็นอันมากในศาสนา
ของเรา.

สัตว์เกิดแล้วควรทำกุศลให้มาก


พระศาสดา (ครั้นทรงแสดงอดีตนิทานจบแล้ว ) ตรัสว่า "ภิกษุ
ทั้งหลาย ธิดาของเราย่อมไม่ขับเพลง ด้วยประการฉะนี้แล, แต่เธอเห็น
ความสำเร็จ แห่งความปรารถนาที่ตั้งไว้ จึงเปล่งอุทาน." เมื่อจะทรง
แสดงธรรม ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย นายมาลาการผู้ฉลาด ทำกอง
ดอกไม่ต่าง ๆ ให้เป็นกองโตแล้ว ย่อมทำพวงดอกไม้มีประการต่าง ๆ ได้
ฉันใด; จิตของนางวิสาขา ย่อมน้อมไปเพื่อทำกุศล มีประการต่าง ๆ
ฉันนั้นเหมือนกัน " ดังนี้แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า:-