เมนู

พระศาสดา. เธอพอใจภิกษุรูปใด, จงรับบาตรของภิกษุรูปนั้น
เถิด วิสาขา.
แม้นางจะพึงใจพระอานนท์เถระก็จริง, แต่คิดว่า "พระมหา-
โมคคัลลานเถระเป็นผู้มีฤทธิ์, การงานของเราจักพลันสำเร็จ ก็เพราะ
อาศัยพระเถระนั่น" ดังนี้แล้ว จึงรับบาตรของพระเถระไว้. พระเถระ
แลดูพระศาสดา. พระศาสดาตรัสว่า "โมคคัลลานะ เธอจงพาภิกษุ
บริวารของเธอ 500 รูป กลับเถิด." ท่านได้ทำตามพระดำรัสนั้นแล้ว.
ด้วยอานุภาพของท่าน พวกมนุษย์ผู้ไปเพื่อต้องการไม้และเพื่อต้องการหิน
ระยะทางแม้ตั้ง 50-60 โยชน์ ก็ขนเอาไม้และหินมากมายมาทันในวัน
นั้นนั่นเอง, แม้ยกไม้และหินใส่เกวียนก็ไม่ลำบากเลย, เพลาเกวียนก็
ไม่หัก. ต่อกาลไม่นานนัก พวกเขาก็สร้างปราสาท 2 ชั้นเสร็จ. ปราสาท
นั้นได้เป็นปราสาทประดับด้วยห้องพันห้อง คือชั้นล่าง 500 ห้อง. ชั้น
บน 500 ห้อง. พระศาสดา เสด็จดำเนินจาริกไปโดย 9 เดือนแล้ว
ได้เสด็จ ( กลับ) ไปสู่กรุงสาวัตถีอีก. แม้การงานในปราสาทของนาง
วิสาขา ก็สำเร็จโดย 9 เดือนเหมือนกัน. นางให้สร้างยอดปราสาทอันจุ
น้ำได้ 60 หม้อ ด้วยทองคำสีสุกที่บุเป็นแท่งนั่นแล. นางได้ยินว่า
" พระศาสดา เสด็จไปยังเชตวันมหาวิหาร" จึงทำการต้อนรับนำพระ-
ศาสดาไปวิหารของตนแล้ว รับปฏิญญาว่า "พระเจ้าข้า ขอพระองค์
โปรดพาภิกษุสงฆ์ประทับอยู่ในวิหารนี้แหละตลอด 4 เดือนนี้, หม่อมฉัน
จักทำการฉลองปราสาท." พระศาสดาทรงรับแล้ว.

นางวิสาขาทำบุญฉลองวิหาร


จำเดิมแต่กาลนั้น นางวิสาขานั้น ย่อมถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์มี

พระพุทธเจ้าเป็นประธานในวิหารนั่นแล. ครั้งนั้น หญิงสหายคนหนึ่ง
ของนาง ถือผ้าผืนหนึ่งราคา 1,000 มาแล้ว กล่าวว่า " สหาย ฉัน
อยากจะลาดผ้าผืนนี้ โดยสังเขปว่าเครื่องลาดพื้นในปราสาทของท่าน, ขอ
ท่านช่วยบอกที่ลาดแก่ฉัน." นางวิสาขากล่าวว่า "สหาย ถ้าฉันจะบอกแก่
ท่านว่า 'โอกาสไม่มี,' ท่านก็จักสำคัญว่า 'ไม่ปรารถนาจะให้โอกาส
แก่เรา, ท่านจงตรวจดูพื้นแห่งปราสาท 2 ชั้น และห้องพันห้องแล้ว
รู้ที่ลาดเอาเองเถิด" หญิงสหายนั้น ถือผ้าราคา 1,000 เที่ยว (เดิน
ตรวจ) ในที่นั้น ๆ ไม่เห็นผ้าที่มีราคาน้อยกว่าผ้าของตนนั้นแล้ว ก็ถึง
ความเสียใจว่า "เราไม่ได้ส่วนบุญในปราสาทนี้" ได้ยืนร้องไห้อยู่แล้ว
ในที่แห่งหนึ่ง. ครั้งนั้น พระอานนทเถระ เห็นหญิงนั้น จึงถามว่า
" ร้องไห้เพราะเหตุไร ?" นางบอกเนื้อความนั้นแล้ว. พระเถระกล่าวว่า
" อย่าคิดเลย, เราจักบอกที่ลาดให้แก่ท่าน," กล่าวแล้วว่า 'ท่านจงลาด
ไว้ที่บันได ทำเป็นผ้าเช็ดเท้า, ภิกษุทั้งหลาย ล้างเท้าแล้ว เช็ดเท้าที่
ผ้านั้นก่อน จึงจักเข้าไปภายใน, เมื่อเป็นเช่นนั้น ผลเป็นอันมากก็จักมี
แก่ท่าน." ได้ยินว่า ที่นั่นเป็นสถานอันนางวิสาขามิได้กำหนดไว้. นาง
วิสาขาได้ถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ในภายใน
วิหาร ตลอด 4 เดือน. ในวันสุดท้าย ได้ถวายผ้าสาฎกเพื่อทำจีวรแก่
ภิกษุสงฆ์. ผ้าสาฎกเพื่อทำจีวร ที่ภิกษุใหม่ในสงฆ์ได้แล้ว ได้มีราคา
พันหนึ่ง. นางได้ถวายเภสัชเต็มบาตรแก่ภิกษุทุกรูป. ในเพราะการ
บริจาคทาน ทรัพย์ได้ (หมดไป ) ถึง 9 โกฏิ. นางวิสาขาบริจาค
ทรัพย์ในพระพุทธศาสนา ทั้งหมด 27 โกฏิ คือ ในการซื้อพื้นที่แห่ง
วิหาร 9 โกฏิ, ในการสร้างวิหาร 9 โกฏิ, ในการฉลองวิหาร 9 โกฏิ

ด้วยประการฉะนี้.
ชื่อว่าการบริจาคเห็นปานนี้ ย่อมไม่มีแก่หญิงอื่น ผู้ดำรงอยู่ใน
ภาวะแห่งสตรีอยู่ในเรือนของตนผู้มิจฉาทิฏฐิ.

นางวิสาขาเปล่งอุทานในวันฉลองวิหารเสร็จ


ในวันแห่งการฉลองวิหารเสร็จ เวลาบ่าย นางวิสาขานั้นอันบุตร
หลานแวดล้อมแล้ว คิดว่า " ความปรารถนาใด ๆ อันเราตั้งไว้แล้วใน
กาลก่อน, ความปรารถนานั้น ๆ ทั้งหมดเทียว ถึงที่สุดแล้ว." เดินเวียน
รอบปราสาท เปล่งอุทานนี้ด้วยเสียงอันไพเราะด้วย 5 คาถาว่า :-
"ความคำริของเราว่า ' เมื่อไร เราจักถวาย
ปราสาทใหม่ ฉาบด้วยปูนขาวและดิน เป็นวิหารทาน'
ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว. ความดำริของเราว่า 'เมื่อไร
เราจักวายเตียงตั่งฟูกและหมอนเป็นเสนาสนภัณฑ์'
ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว. ความดำริของเราว่า ' เมื่อไร
เราจักถวายสลากภัต ผสมด้วยเนื้ออันสะอาด เป็น
โภชนทาน' ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว. ความดำริของ
เราว่า 'เมื่อไร เราจักถวายผ้ากาสิกพัสตร์ ผ้าเปลือก
ไม้ และผ้าฝ้าย เป็นจีวรทาน' ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว.
ความดำริของเราว่า ' เมื่อไร เราจักถวายเนยใส
เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำมัน และน้ำอ้อย เป็นเภสัชทาน'
ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว"
ภิกษุทั้งหลาย ได้ยินเสียงของนางแล้ว กราบทูลแด่พระศาสดาว่า