เมนู

ดังนี้แล้ว เสด็จไปสรงในที่นั้น. ในกาลนั้น พระยาช้างนั้นนำผลไม้
ต่างอย่างมาถวายแด่พระศาสดา. ก็เมื่อพระศาสดาจะเสด็จเข้าบ้านเพื่อ
บิณฑบาต พระยาช้างนั้นถือบาตรจีวรวางไว้บนตระพอง ตามเสด็จพระ-
ศาสดาไป. พระศาสดาเสด็จถึงแดนบ้านแล้วรับสั่งว่า "ปาริเลยยกะ ตั้งแต่
ที่นี้ เจ้าไม่อาจไปได้. เจ้าจงเอาบาตรจีวรของเรามา" ดังนี้แล้ว ให้
พระยาช้างนั้นเอาบาตรจีวรมาถวายแล้ว เสด็จเข้าบ้านเพื่อบิณฑบาต.
ส่วนพระยาช้างนั้นยืนอยู่ที่นั้นเอง จนกว่าพระศาสดาจะเสด็จออกมา ใน
เวลาพระศาสดาเสด็จมา ทำการต้อนรับแล้ว ถือบาตรจีวรโดยนัยก่อน
(นำไป) ปลงลง ณ ที่ประทับอยู่แล้ว ถวายงานพัดด้วยกิ่งไม้ แสดง
วัตรอยู่. ในราตรี พระยาช้างนั้นถือท่อนไม้ใหญ่ด้วยงวง เที่ยวไปใน
ระหว่าง ๆ แห่งราวป่ากว่าอรุณจะขึ้น เพื่อกันอันตรายอันจะมีแต่เนื้อร้าย
ด้วยตั้งใจว่า "จักรักษาพระศาสดา" ได้ยินว่า ราวป่านั้นชื่อว่ารักขิต-
วันสัณฑะ จำเดิมแต่กาลนั้นมา. ครั้นอรุณขึ้นแล้ว, พระยาช้างนั้น
ทำวัตรทั้งปวง โดยอุบายนั้นนั่นแล ตั้งต้นแต่การถวายน้ำสรงพระพักตร์.

วานรถวายรวงน้ำผึ้ง


ในกาลนั้น วานรตัวหนึ่ง เห็นช้างนั้นลุกขึ้นแล้ว ๆ ทำอภิสมา-
จาริกวัตร ( คือการปฏิบัติ ) แด่พระตถาคตเจ้าแล้ว คิดว่า "เราก็จัก
ทำอะไร ๆ ถวายบ้าง" เที่ยวไปอยู่, วันหนึ่ง เห็นรวงผึ้งที่กิ่งไม้หา
ตัวมิได้ หักกิ่งไม้แล้ว นำรวงผึ้งพร้อมทั้งกิ่งไม้ไปสู่สำนักพระศาสดา
ได้เด็ดใบตองรองถวาย.1 พระศาสดาทรงรับแล้ว. วานรแลดูอยู่ ด้วย

1. ตตฺถ ฐเปฺวา อทาสิ วางถวายไว้ ณ ที่นั้น.