เมนู

1. ยมกวรรควรรณนา



1. เรื่องพระจักขุปาลเถระ [1]


ข้อความเบื้องต้น


มีปุจฉาว่า " พระธรรมเทศนานี้ว่า
'ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่
สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจร้ายแล้ว พูดอยู่ก็ดี
ทำอยู่ก็ดี ทุกข์ย่อมไปตามเขา เพระเหตุนั้น ดุจ
ล้ออันหมุนไปตามรอยเท้าโค ผู้นำเอกไปอยู่ฉะนั้น,'

ดังนี้ พระศาสดาตรัสแล้ว ณ ที่ไหน ? "
วิสัชนาว่า "พระองค์ตรัสแล้ว ณ กรุงสาวัตถี"
มีปุจฉา (เป็นลำดับไป) ว่า " พระองค์ทรงปรารภใคร ?"
มีวิสัชนาว่า " พระองค์ทรงปรารภพระจักขุปาลเถระ."

กุฎุมพีทำพิธีขอบุตร


ดังได้สดับมา ในกรุงสาวัตถี มีกุฎุมพีผู้หนึ่งชื่อมหาสุวรรณ เป็น
คนมั่งมี มีทรัพย์มาก มีสมบัติมาก (แต่) ไม่มีบุตร. วันหนึ่งเขา
ไปสู่ท่าอาบน้ำ อาบเสร็จแล้วกลับมา เห็นต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพร
ต้นหนึ่ง มีกิ่งสมบูรณ์ในระหว่างทาง คิดว่า " ต้นไม้นี้จักมีเทวดา ผู้มี

ศักดิ์ใหญ่สิงอยู่" ดังนี้แล้ว จึงให้ชำระส่วนภายใต้แห่งต้นไม้นั้นให้
สะอาดแล้ว ให้วงรั้ว เกลี่ยทราย ยกธงชัยและธงปฏากขึ้น แต่งต้นไม้
เจ้าไพรแล้ว ทำปรารถนา (คือบน) ว่า "ข้าพเจ้าได้บุตรหรือธิดา
แล้ว จักทำสักการะใหญ่ถวายท่าน " ดังนี้แล้ว หลีกไป.

กุฎุมพีได้บุตรสองคน


ในกาลเป็นลำดับมา ภรรยาของท่านเศรษฐีก็ตั้งครรภ์. ท่านก็ให้
พิธีครรภบริหาร1 แก่นาง. ครั้นล่วง 10 เดือน นางคลอดบุตรคนหนึ่ง
ท่านเศรษฐีขนานนามแห่งบุตรนั้นว่า "ปาละ" เพราะเหตุทารกนั้นตน
อาศัยไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพรอันตนอภิบาลจึงได้แล้ว.
ในกาลเป็นส่วนอื่น ท่านเศรษฐีได้บุตรอีกคนหนึ่ง ขนานนาม
ว่า " จุลปาละ " ขนานนามบุตรคนแรกว่า "มหาปาละ." ครั้น
2 กุมารนั้นเจริญวัย2 มารดาบิดาก็คิดผูกพันด้วยเครื่องผูกพันคือการครอง
เคหสถาน.
ในกาลเป็นส่วนอื่น มารดาได้ทำกาลกิริยาล่วงไป. วงศ์ญาติ
ก็เปิดสมบัติทั้งหมดมอบให้แก่ 2 เศรษฐีบุตร3.

พระศาสดาประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี 25 พรรษา


ในสมัยนั้น พระศาสดา ทรงประกาศพระบวรธรรมจักรให้เป็น
ไปแล้ว เสด็จไปโดยลำดับ ประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ที่ท่าน

1. เป็นพิธีอย่างหนึ่งในศาสนาพราหมณ์ทำกัน 2 คราว คือทำเมื่อภรรยาตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน
ครั้งหนึ่งเรียก ปํจามฺฤตมฺ ทำเมื่อตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนครั้งหนึ่ง เรียกสปฺตามฺฤตมฺ.
2. มารดาบิดา ผูกบุตรทั้งสองนั้นผู้เจริญวัยแล้ว ด้วยเครื่องผูกคือเรือน.
3. พวกญาติก็แบ่งโภคะทั้งหมดจำเพาะแก่สองเศรษฐีบุตร.