เมนู

ดังนี้ จึงโบกมือ (เป็นที่รุกราน). เธอยังขัตติยมานะให้เกิดขึ้นแล้ว
ถามว่า "พวกท่านมาสู่สำนักใคร ?" เมื่ออาคันตุกภิกษุเหล่านั้นตอบว่า
"มาสู่สำนักของพระศาสดา" จึงกล่าวว่า " ก็พวกท่านคาดข้าพเจ้าว่า
" นี่ใคร ? ' ข้าพเจ้าจักตัดมูล1ของพวกท่านเสียให้ได้" ดังนี้แล้ว ร้องไห้
เป็นทุกข์ เสียใจ ได้ไปสู่สำนักของพระศาสดาแล้ว.

พระติสสะทูลเรื่องแด่พระศาสดา


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามเธอว่า "ติสสะ เป็นอะไรหนอ ?
เธอจึงเป็นทุกข์ เสียใจ มีน้ำตาอาบหน้า ร้องไห้ มาแล้ว." ฝ่ายภิกษุ
เหล่านั้น (คือพวกภิกษุอาคันตุกะ) คิดว่า "ภิกษุนั้น คงไปทำกรรม
ขุ่นมัวอะไร ๆ " ดังนี้ จึงไปกับพระติสสะนั้นทีเดียว ถวายบังคมพระ-
ศาสดาแล้ว ได้นั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง. พระติสสะนั้น อันพระศาสดา
ตรัสถามแล้ว ได้กราบทูลว่า " พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุเหล่านี้ด่าข้า
พระองค์."
ศ. ก็เธอนั่งแล้วที่ไหน ?
ต. ที่โรงฉันกลางวิหาร พระเจ้าข้า.
ศ. ภิกษุเหล่านี้มา เธอได้เห็นหรือ ?
ต. เห็น พระเจ้าข้า.
ศ. เธอได้ลุกขึ้นทำการต้อนรับหรือ ?
ต. ไม่ได้ทำ พระเจ้าข้า.

1. ตัดความเป็นสมณะ คือ ให้ขาดจากสมณภาพ.

ศ. เธอได้ถามโดยเอื้อเฟื้อถึงการรับบริขาร ของภิกษุเหล่านั้น
หรือ ?
ต. ข้าพระองค์ไม่ได้ถามโดยเอื้อเฟื้อ พระเจ้าข้า.
ศ. เธอได้ถามโดยเอื้อเฟื้อถึงธรรมเนียม หรือน้ำดื่มหรือ ?
ต. ข้าพระองค์ไม่ได้ถามโดยเอื้อเฟื้อ พระเจ้าข้า.
ศ. เธอนำอาสนะมาแล้ว ทำการนวดเท้าให้หรือ ?
ต. ไม่ได้ทำ พระเจ้าข้า.

พระติสสะไม่ยอมขมาภิกษุสงฆ์


ศ. ติสสะ วัตรทั้งปวงนั่น เธอควรทำแก่ภิกษุผู้แก่. การที่
เธอไม่ทำวัตรทั้งปวงนั่น นั่งอยู่ในท่ามกลางวิหาร ไม่สมควร, โทษ
ของเธอเองมี, เธอจงขอโทษภิกษุทั้งหลายนั่นเสีย.
ต. พระองค์ผู้เจริญ พวกภิกษุนี้ได้ด่าข้าพระองค์, ข้าพระองค์
ไม่ยอมขอโทษเธอ.
ศ. ติสสะ เธออย่าได้ทำอย่างนี้. โทษของเธอเองมี เธอจงขอ
โทษภิกษุเหล่านั้นเสีย.
ต. พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่ยอมขอโทษภิกษุเหล่านี้ .
ลำดับนั้น พระศาสดา เมื่อภิกษุทั้งหลายยกราบทูลว่า "ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ พระติสสะนี้เป็นคนว่ายาก" ดังนี้แล้ว ตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย ติสสะนี้ มิใช่เป็นผู้ว่ายากแต่ในบัดนี้เท่านั้น, ถึงใน
กาลก่อน ติสสะนี้ก็เป็นคนว่ายากเหมือนกัน," เมื่อภิกษุเหล่านั้น
กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลาย ทราบความที่